'เพื่อชาติ' จี้ 'ประยุทธ์' ลาออก เหตุทำประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำ

'เพื่อชาติ' จี้ 'ประยุทธ์' ลาออก เหตุทำประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำ

"เพื่อชาติ" จี้ "ประยุทธ์" ลาออก เหตุทำประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.61 นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เเถลงเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และคณะรัฐบาล คสช. ลาออกถ้ารักชาติจริงอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะจากข้อมูลของ CS Global Wealth Report 2018 ที่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคมนั้น ได้รายงานผลสำรวจว่า ประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลกไปแล้ว มันคือสมุดรายงานผลงาน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ารัฐบาล เเละคสช. สอบตกบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดอย่างร้ายแรง

“ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจกว้างมากขึ้นจนเป็นอันดับหนึ่งของโลก พุ่งจากอันดับ 11 ในปี 2556 ก่อนที่คสช. เข้ามาบริหารประเทศ โดยปัจจุบันนี้ทรัพย์สินของทั้งประเทศตกอยู่ในมือประชากรเพียง 1% หรือ 500,000 คนแรกของประเทศ ในขณะที่ประชาชนอีก 10% ของประเทศมีทรัพย์สิน 0% ประเด็นนี้เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงมากเพราะสามารถทำให้ประเทศไทยล่มสลายได้เลย หัวหน้า คสช. ควรพิจารณาตนเอง” โฆษกพรรคเพื่อชาติเเถลง

โฆษกพรรคเพื่อชาติเเถลงว่ารัฐบาลนี้เข้ามาบริหารทำให้ประชาชนไทยค่อยๆ เป็นคนหมดอาชีพ การบริหารงานใน 2 ปีแรก คึอ กลุ่มฐานรากเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ ทำให้เป็นกลุ่มแรกที่หมดอาชีพจากนโยบายจัดระเบียบต่างๆ ทั้งจากระเบียบหาบเร่แผงลอย จัดระเบียบอ.ย. การจัดเก็บภาษีความเค็มที่ไม่เก็บภาษีอาหารแช่แข็ง ตอนนี้มาถึงนโยบายเก็บภาษีจากการโอนเงิน หรือภาษีขายของออนไลน์แล้ว นโยบายเหล่านี้ทำให้กลุ่มประชาชนฐานรากไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ทำให้ต้องกลับไปสู่บ้านเกิดแล้วใช้ชีวิตแบบสังคมเกษตรกรรมในอดีต ด้วยการทำนาและหาปลาปลูกผักเลี้ยงชีพ ซึ่งเมื่อไม่มีกำลังซื้อในการบริโภค ส่งผลให้ผู้ผลิตเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบต่อมาเป็นลูกโซ่เนื่องจากไม่มีการบริโภค เมื่อมีการผลิตสินค้าออกมาก็จำหน่ายไม่ได้ ผู้ที่มีสายป่านสั้นก็เลิกกิจการหมดอาชีพเป็นกลุ่มที่ 2

โฆษกพรรคเพื่อชาติเเถลงว่า ส่วนคนที่สายป่านยาวก็ทนอยู่มาสี่ปีกว่า ก็เริ่มทนไม่ไหวปลดพนักงานเป็นอันดับแรก สิ้นปี 2561 แวดวงสื่อสารมวลชน ซึ่งเพื่อนๆของตนในเเวดวงนี้จะเป็นประชาชนตกงานไม่มีอาชีพอีกหลายร้อยครอบครัว เเละพนักงานธนาคารจะถูกปลดออกอีกจำนวนมาก รวมทั้งโรงงานอุตสากรรมอีกหลายแห่งที่ปลดพนักงานออกเพื่อคงสภาพธุรกิจไว้

โฆษกพรรคเพื่อชาติเเถลงว่า จากการบริหารงานของรัฐบาล คสช. สี่ปี กว่าชนชั้นฐานรากและชนชั้นกลาง sme ถูกทำให้หมดอาชีพ ส่วนมนุษย์เงินเดือนและชนชั้นกลางกลางได้รับผลกระทบกลายเป็นคนไม่มีอาชีพเป็นกลุ่มที่ 3 จากการจ้างให้ออก และเมื่อความเหลื่อมล้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้นมากๆ ความเดือดร้อนจะมาถึงทุกคน ทั้งสังคมไทยก็จะกลายเป็นผู้ไม่มีอาชีพ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีกำลังซื้อไม่มีเงินหมุนเวียนในตลาด

“การบริหารงานที่ยิ่งบริหารความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจก็ยิ่งมากขึ้นคือปัญหาหลักที่รุนแรงในสังคมไทยในขณะนี้ ปัญหานี้ต้องเร่งรีบแก้ไขโดยที่ต้องคืนอาชีพให้กลุ่มคนฐานรากและกลุ่มชนชั้นกลางที่ได้รับผลกระทบ ถ้าไม่ทำอะไรปล่อยไปเรื่อยๆ คาดว่าประเทศเราล้มละลายแน่นอน”