'เสรีพิศุทธ์' ชี้ปชช.ไม่เอาทหารแล้ว เตือนเผด็จการจะไม่มีแผ่นดินอยู่

'เสรีพิศุทธ์' ชี้ปชช.ไม่เอาทหารแล้ว เตือนเผด็จการจะไม่มีแผ่นดินอยู่

อดีตผบ.ตร. "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" เชื่อประชาชนไม่เอาทหารแล้ว ชี้ประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งแน่ เตือนเผด็จการจะไม่มีแผ่นดินอยู่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขอบคุณคนรักประชาธิปไตยทุกคนที่พยายามต่อสู้เพื่อประเทศชาติให้ได้รัฐบาลที่ได้มาจากประชาชน ถึงแม้ตัวเองจะถูกแจ้งความดำเนินคดีตกเป็นผู้ต้องหาก็ไม่ได้ใส่ใจ จะยืนหยัดด้วยความมั่นคง ซึ่งการทำงานเพื่อประเทศชาติเช่นนี้ถือว่าเป็นไปในทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่า พรรคจะไม่ไปประชุมกับคสช.ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ เนื่องจากไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลที่ปล้นและโกงมาโดยการออกคำสั่งต่างๆเพื่อตัวเอง เอื้อให้พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนเพื่อการปฏิรูป ที่ตั้งใหม่โดยขยายเวลาสรรหาสมาชิก

"แต่ก็ยังมีอีแอบไม่ยอมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็เลยออกคำสั่งนี้ออกมาขยายเวลาสรรหาสมาชิกไปจนถึงวันรับสมัครรับเลือกตั้ง คนอย่างผมผ่านความเป็นความตายมาเยอะ ทำงานประเทศชาติมาขนาดนี้ ไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากจะให้เลือกตั้ง มันผิดอะไร มันไม่ได้ผิดอะไรเลย"

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดไปเป็นความจริง ไม่ใช่ความเท็จ ตนให้ลูกน้องไปรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับพวกที่มาแจ้งความตน และอีกส่วนหนึ่งเตรียมจะดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์ และฟอกเงิน กับพรรคการเมืองที่ไปดูดอดีตส.ส.มา

“ทะเลาะกับใครไม่ทะเลาะ มาทะเลาะกับอดีตผบ.ตร.อย่างผม ก็ต้องล่อให้เต็มที่ ขอให้ดำเนินการไว้ก่อน พอมาเป็นรัฐบาลจะได้จัดการต่อเลย อย่างไรก็ตาม ยืนว่าพรรคจะส่งผู้สมัครครบ 350 เขต ผมมองว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต้องมีการเปลี่ยนแปลง หากประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงต้องเปลี่ยนผู้นำใหม่ เพราะผู้นำแบบนี้ไม่มีใครยอมรับ ผมลงพื้นที่ไปพบประชาชนไม่มีใครเอาทหารแล้ว วันนี้หากไม่เปลี่ยนก็เหมือนเดิม วันนี้ต้องสู้กันระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย หลังเลือกตั้งประชาธิปไตยจะชนะ และเผด็จการจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ตอนนี้ไปหาเลือกประเทศอยู่ได้เลย ประเทศที่หมายจับไปไม่ถึง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคเสรีรวมไทย เป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มคนอยากเลือกตั้งประมาณ 50คน ได้ให้กำลังใจพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นความหวังในการต่อสู่กับอำนาจเผด็จการ