‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทปรับตัวตามความเสี่ยง จับตาปัจจัยสำคัญในสหรัฐและราคาน้ำมัน

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจาก 32.70บาทต่อดอลลาร์ ช่วงปิดตลาดสิ้นสัปดาห์ก่อน

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินเคลื่อนไหวผันผวนหนัก หุ้นสหรัฐปรับตัวลงมากกว่า 3% ถือเป็นการปรับตัวลงที่แรงที่สุดในวันเดียว พร้อมกันนี้บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุห้าปี ปรับตัวลงจนต่ำกว่าบอนด์ยิลด์อายุสองปี ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจทดถอยตามมาในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขฝั่งสหรัฐยังไม่ได้ชะลอตัวลงเลย ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ (ADP Employment) ขยายตัวขึ้นในเดือนที่ผ่านมาถึง 1.95 แสนตำแหน่ง ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ ก็อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.25 แสนตำแหน่งจากการรายงานเมื่อคืนวันก่อน ย้ำภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่ได้อ่อนแอลงจากความผันผวนของตลาดการเงิน

เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันที่กลับมาปรับตัวขึ้นได้เพียงพอความคาดหวังว่ากลุ่มโอเปคจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตในการประชุมช่วงสัปดาห์นี้ ชี้ว่ายังคงมีกำลังซื้อในภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งอยู่

ส่วนของค่าเงินบาทช่วงนี้ปรับตัวตามการรับความเสี่ยง (Risk Appetite) เราจึงคงคำแนะนำให้จับตาไปที่ทิศทางของการลงทุนทั่วโลกเป็นหลัก เราเริ่มเห็นแล้วว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะแนวโน้มสงครามการค้ามีโอกาสที่จะบานปลาย เช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสชะลอตัว ทิศทางของค่าเงินบาท จะอยู่ที่ความตีความของตลาด ว่าสกุลเงินในเอเชียสามารถเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงนี้ได้หรือไม่ ค่าเงินเยนจึงเป็นตัวกำหนดแนวโน้มในระยะสั้น

นอกจากนี้ เราเชื่อว่านักลงทุนจะรอดูภาพตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วย เพราะถ้าการว่างงานยังต่ำกว่า 4% และรายได้ยังปรับตัวขึ้นถึง 3% ก็ยากที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐจะจบลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดหวัง

มองกรอบค่าเงินดอลลาร์วันนี้ 32.69-32.79 บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ตลาดกลับไปสู่โหมดปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การเดินหน้าทำสงครามการค้ากันต่อได้  นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจาก ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจหดตัวหรือเข้าสู่ภาวะ Recession ในอีก 12-18เดือนข้างหน้า หลังเกิดสัญญาณ Inverted Yield Curve ระหว่างบอนด์ยีลด์2ปีสหรัฐฯและบอนด์ยีลด์5ปีสหรัฐฯ ขึ้น 

สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุม OPEC ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลาประมาณ 19 น. (BKK time) โดยตลาดจะรอดูว่า สมาชิกกลุ่มOPEC จะสามารถตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงได้เกิน 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือนในปีหน้าหรือไม่  หากมีการตกลงลดกำลังการผลิตที่น้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจจะไม่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น  

รวมถึงตลาดจะรอดูตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวลดราว 1ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า หากตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังยังเพิ่มขึ้นเกินคาด อาจกดดันราคาน้ำมันได้ต่อ  นอกเหนือจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจแล้ว ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด อาทิ Fed Quarles เพื่อติดตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อ

 สำหรับวันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 32.70-32.85 บาทต่อดอลลาร์