'ปกรณ์' มือสอบสวนคดีฟอกเงินธรรมกาย ขึ้นรองอธิบดีดีเอสไอ

'ปกรณ์' มือสอบสวนคดีฟอกเงินธรรมกาย ขึ้นรองอธิบดีดีเอสไอ

ปลัดยธ.เซ็นตั้ง 4 รองอธิบดี “ปกรณ์” มือสอบสวนคดีฟอกเงินธรรมกาย ขึ้นรองอธิบดีดีเอสไอ ให้มีผลตั้งแต่ 4 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิศิษฏ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ลงนามคำสั่งโอนข้าราชการพลเรือนกระทรวงยุติธรรม 4 ตำแหน่งสำคัญที่ว่างลง ได้แก่ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, พ.ต.ท.ไพศิษฏ์ สังคหะพงศ์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ไปเป็น รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, นายโกมล พรมเพ็ง ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดำรงตำแหน่ง รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และนางณัชภัสสร สุนทรฐณะวัตน์ ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมพินิจฯ โดยให้มีผลวันที่ 4 ธ.ค.61

สำหรับพ.ต.ท.ปกรณ์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีสำคัญหลายคดี โดยมีบทบาทหลักในการสอบสวนคดีฟอกเงินวัดพระธรรมกาย และเป็นหนึ่งในทีมค้นวัดพระธรรมกายเมื่อปี 2560 ล่าสุดได้พิจารณาสำนวนและมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนางวรรณา จิรกิติ น้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล ในฐานะประธานมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง และ น.ส.อารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ เลขานุการมูลนิธิฯ (เสียชีวิต) ในข้อหาคดีฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน พร้อมทั้งเสนอให้อัยการสูงสุดฟ้องเลิกมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง กรณีพระธัมมชโยรับเงินจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ที่กระทำทุจริตเซ็นต์เช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนำเงินดังกล่าวผ่านมูลนิธิฯ เพื่อก่อสร้างอาคารลูกโลก อาคารวิหารคต อาคารบุญรักษา จ.ปทุมธานี และอาคารเวิลด์พีชวัลเลย์ จ.นครราชสีมา