‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยง แต่สวนทางสภาพคล่องในตลาดลดลง นักลงทุนรอดูสภาพตลาดแรงสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) หลังสงครามการค้าพักรบชั่วคราว ดัชนีหลักทรัพย์ S&P500 ของสหรัฐปรับตัวบวกขึ้น 1.1% พร้อมกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 4% และราคาทองสูงขึ้น 1%

นอกจากนี้ ในฝั่งของเศรษฐกิจสหรัฐก็ดูจะฟื้นตัวกลับมาแข็งแกร่งด้วย ล่าสุดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (ISM Manufacturing PMI) ปรับตัวขึ้นมาที่ 59.3จุดจากเดือนก่อนที่ 57.7จุด ย้ำความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ไม่สั่นคลอน

พร้อมกันนี้ ตลาดก็ได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินหลังกรรมการธนาคารกลางสหรัฐหลายท่านให้ความเห็นเกี่ยวกับมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยและภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต โดยส่วนใหญ่มองว่าเงินเฟ้อของสหรัฐ มีโอกาสปรับตัวลงมากกว่าขึ้น ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่ควรเป็นเช่นกัน บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีจึงปรับตัวลงมาที่ระดับ 2.98%

ส่วนของค่าเงินบาทช่วงนี้ปรับตัวแข็งค่าตามแนวโน้มดอลลาร์อ่อน ในระยะสั้นเรายังคงแนะนำจับตาไปที่ทิศทางของการลงทุนทั่วโลกเป็นหลัก เพราะจุดเด่นของการฟื้นตัวรอบนี้ คือทุกสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นสวนทางกับความเป็นจริงที่สภาพคล่องในตลาดลดน้อยลง จึงมีความเป็นไปได้ที่บางสินทรัพย์อาจเป็นการฟื้นตัวที่ไม่ยั่งยืน

นอกจากนี้ เราเชื่อว่านักลงทุนจะรอดูภาพตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วย เพราะถ้าการว่างงานยังต่ำกว่า 4% และรายได้ยังปรับตัวขึ้นถึง 3% ก็ยากที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐจะจบลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดหวัง มองกรอบค่าเงินดอลลาร์วันนี้ 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า  ตลาดยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังตลาดเริ่มคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน  อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจับตามองต่อก็คือ Inverted Yield Curve โดยล่าสุดบอนด์ยีลด์3ปีสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสูงกว่าบอนด์ยีลด์ 5ปีสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลว่า Inverted yield curve อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัว(Recession) ได้ในอนาคต 

สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอดูผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะยังมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตามเดิม ทำให้ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ ยังคงไม่ได้รับแรงหนุนจากการขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่แรงกดดันต่อค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ยังคงมีมาจากแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนซึ่งมีผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจออสเตรเลียอย่างมีนัยสำคัญ  

นอกจากนี้แล้ว ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ Carney เพื่อวิเคราะห์โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของBoE ท่ามกลางความเสี่ยงการเจรจาBrexit  และที่สำคัญ ตลาดจะรอดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเฟด อย่าง Fed Williams ซึ่งเป็นผู้ที่สำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด   

 สำหรับวันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 32.65-32.75 บาทต่อดอลลาร์