คาดโอเปคต่อเวลาควบคุมการผลิต

คาดโอเปคต่อเวลาควบคุมการผลิต

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อวันจันทร์(3ธ.ค.) หลังรัสเซีย-ซาอุฯ ไฟเขียวควบคุมเพดานการผลิตอีกรอบ ขณะที่สหรัฐเห็นชอบระงับขึ้นภาษีสินค้าจีน สงบศึกการค้าที่บั่นทอนความต้องการน้ำมันไว้ชั่วคราว ด้านกาตาร์ประกาศโบกมือลาโอเปค 1 ม.ค.นี้

ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นกว่า 5% วานนี้ โดยน้ำมันดิบเบรนท์ราคาเพิ่มขึ้น 2.82 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 53.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต ขยับขึ้น 2.98 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 62.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันเสาร์ (1 ธ.ค.) ว่าตนและมกุฎราชกุมาร์โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เห็นชอบขยายข้อตกลงควบคุมเพดานการผลิตออกไปอีกในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกซบเซา จากเดิมที่ประเทศทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคเคยตกลงกันว่าจะลดการผลิตถึงสิ้นปีนี้

สัญญาซื้อขายน้ำมันหลักทั้งเบรนท์และดับเบิลยูทีไอร่วลงราว 1 ใน 3 หลังจะทะลุระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อต้นเดือน ต.ค. เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการอ่อนตัวลง ผลผลิตเพิ่มสูง สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านน้อยกว่าคาด และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผนวกกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีจากนายปูตินถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจน แต่ยังไม่ทราบว่าจะคุมการผลิตเท่าใดกันแน่ขณะนี้ผู้ค้ากำลังรอคอยการประชุมโอเปคและประเทศผู้ผลิตรายใหญ่นอกโอเปคที่กรุงเวียนนาช่วงสุดสัปดาห์ ที่จะมีการประกาศแผนลดกำลังการผลิตออกมา นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะลดลงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่บางคนมองว่า แค่นี้ยังไม่สามารถช่วยดึงราคาที่ลดลงได้

ด้านนายซาอัด อัล คาบี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันกาตาร์ แถลงวานนี้ว่า กาตาร์ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปค มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 โดยยังเดินหน้าผลิตน้ำมันต่อไปแต่ให้ความสำคัญกับการผลิตก๊าซมากกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคและยุทธศาสตร์ ไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมือง

ทั้งนี้ กาตาร์ เป็นประเทศส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวรายใหญ่สุดของโลก เข้าเป็นสมาชิกโอเปคมาตั้งแต่ปี 2504 ซึ่งโอเปคมีซาอุดีอาระเบียเป็นพี่ใหญ่ โดยเมื่อเดือน มิ.ย.2560 ซาอุฯ นำหลายประเทศให้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์