บวกรับข่าวดีสงครามการค้า

บวกรับข่าวดีสงครามการค้า

SET Index วานนี้ในช่วงเช้าสามารถปรับตัวขึ้นได้ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว และคาดการณ์ GDP ทั้งปีจากหอการค้าจะโตได้ 4-4.2% ตามเป้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในสัปดาห์นี้ โดยวานนี้ซื้อสุทธิที่ 972.24 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,641.80 จุด (+5.31 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign Net +627.75 ลบ. TFEX Net -497 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -429 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้นั้น จะเป็นไปด้วยดี  

+ประธานเฟดมินเนอาโพลิสขวางเฟดขึ้นดอกเบี้ย ขณะตลาดแรงงานแกร่ง,เงินเฟ้อต่ำ

- ธปท.ยอมรับว่าทิศทางเศรษฐกิจน่าจะชะลอตัวลงจากที่ประเมินว่าศก.ทั้งปีจะขยายตัวได้ 4.4% เพราะ Q4 จะต้องขยายตัวถึง 4.8% ซึ่งมีโอกาสไม่มาก ต้องจับตาการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าที่อาจส่งผลมากกว่าที่ประมาณการไว้

+ ผู้นำสหรัฐ-จีนเห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐออกไป 90 วันจาก 1 ม.ค.2562 หากสิ้นสุดเวลาดังกล่าวยังหาข้อตกลงไม่ได้ก็จะขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%

-น้ำมันปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้มีการคาดการณ์กันว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในสัปดาห์หน้า

-ยูโรสแตทเผยอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนชะลอตัวสู่ 2.0% ในเดือนพ.ย.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.87 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.84 บาท/US

ตลาดหุ้นทั่วโลกขานรับข่าวดีสงครามการค้าสหรัฐ-จีนคลี่คลายความตึงเครียดในการที่สหรัฐจะเลื่อนเวลาเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็น 25% ออกไปอีก 90 วัน  ขณะที่นลท.สถาบันยังมีแรงซื้อหนุนดัชนี  แต่เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ยิ่งกดดันFund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,656

กลยุทธ์การลงทุน  

- วันนี้ประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน CK STEC

-  งานมอเตอร์เอ็กซ์โป KKP TISCO TCAP

- Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.84 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

หุ้นแนะนำพิเศษ

TACC Analyst Meeting ราคาปิด 3.32 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.60 บาท

  •  แนวโน้ม Q4 ผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากการเข้าสู่ High Season ประกอบกับ การเติบโตธุรกิจใหม่อย่าง การบริหารลิขสิทธิ์ Rilakkuma ซึ่งมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 17 ราย จาก 5 ในช่วง 2Q61 รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับ A&W ที่ปัจจุบันร่วมขายกันกว่า 8 สาขาแล้ว จาก A&W ทั้งหมด 38 สาขา อย่างไรก็ตาม ใน 4Q61 อาจมีการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากลูกค้าที่กัมพูชา ราว 10-15 ลบ. ขณะที่เราคาดกำไรปกติปี 61 ที่ราว 85 ลบ. -24.2% (กำไร 9M61 เท่ากับ 59 ลบ. คิดเป็น 69.4% ของคาดการณ์กำไรปี 61) และคาดการณ์กำไรปี61ยังไม่ได้รวมผลกระทบของการรับรู้ค่าเผื่อหนี้ฯ
  • แนวโน้มปี 62 : TACC ยังคงเติบโตตามการขยายสาขาของ 7-11 และเริ่มรุกในธุรกิจ All Café มากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟ รวมทั้งการเติบโตจากธุรกิจใหม่ Rilakkuma และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ A&W นอกจากนี้ ในธุรกิจ Character Business จะเพิ่มตัวการ์ตูนที่เป็น Global Brand เข้ามาอีก 1 ตัว และจะเริ่มเข้าไปขายเครื่องดื่มตรา Zenya ที่กัมพูชาอีกครั้ง โดยจับมือกับ Distributor รายใหม่ “GOODHILL”

        นอกจากนั้น บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการทำ M&A กับบริษัท 1 ราย (อยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มและขนม) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอน Due diligence โดยเราคาดกำไรปี 62 ราว 111 ลบ. +30.8%

  • JKN (ราคาปิด 11.30 ซื้อ ราคาเหมาะสม 13.40 ) เตรียมเจรจาตลาดหลักทรัพย์ ขอลุยช่องเศรษฐกิจ หลัง MONEY CHANNEL ปิดตัว พร้อมนำ CNBC เข้าผนึก ชี้ชาติจำเป็นต้องมีช่องลงทุน หวั่นนักลงทุนเคว้ง ยืนกรานพร้อมสร้างกำไรได้ทันที รับเจรจามาก่อน แต่ล่มเหตุโครงสร้างเดิมไม่เอื้อ พร้อมเปิดกลยุทธ์ปั๊มกำไรช่องเศรษฐกิจ คอนเทนท์เด่น-ช่องทางออกอากาศหลากหลาย-สร้างประสิทธิภาพการดำเนินงาน(ที่มา : ทันหุ้น)

        ความเห็น : เนื่องจาก Money Channel เป็นช่องที่มีฐานคนดูเฉพาะกลุ่ม ซึ่งหากดีลนี้เกิดขึ้นจริงต้องคอยติดตามแผนการดำเนินงานของผู้บริหารในการจัดหารายได้ของทางช่อง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ คาดจะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ในรูปแบบ Recurring Income ของบริษัท

  • "DOD"(ราคาปิด 14.00 ซื้อ ราคาเหมาะสม 18.20 )เตรียมชงบอร์ดในเดือนธันวาคมนี้ ปิดดีลเทกโอเวอร์ธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านความงาม นั่งแท่นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมมั่นใจผลงานปี 2561 โตก้าวกระโดด(ที่มา : ทันหุ้น)

        ความเห็น : ถ้าแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามนั้นเป็นที่รู้จักของตลาดและเทคโอเวอร์มาในราคาที่เหมาะสม เรามองว่าจะเป็นผลดีต่อการสร้างการเติบโตในอนาคต

หุ้นมีข่าว   

·      EA Analyst Meeting (ราคาปิด 49 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 63 ) บริษัทได้ให้ภาพรวมธุรกิจต่างๆของ EA ดังนี้ 1) ธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด มีกำหนดการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม Hanuman (260 MW)เข้ามาเพิ่มใน ช่วง 4Q61 2)ธุรกิจ Biodiesel ยังประสบปัญหาจากภาวะราคาน้ำมันปาล์มที่ตกต่ำ แต่มี Glycerine ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์มที่มีอัตรากำไรที่ดีและสามารถขายได้เพิ่มขึ้นในแง่ของราคาและปริมาณ อีกทั้งบริษัทยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างโรงงานมูลค่าราว 2 พันลบ.เพื่อผลิต GreenDiesel และ PCM ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากน้ำมันปาล์ม และมีอัตรากำไรที่ดีกว่า 3)ธุรกิจ Energy Storage หลังบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท Amita(Taiwan) จนมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 70% โดยบริษัทได้รับความร่วมมือกับรัฐบาลไต้หวันในการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และโครงการ Energy Storage Phase I (1GWh) กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างคาดจะแล้วเสร็จได้ในช่วง 2H62 4)ธุรกิจ EV Charging Station ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จจำนวน 155 สถานี  โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีสถานีชาร์จ 200 สถานีภายในปี 61 สำหรับกำไรสุทธิงวด 9M61 อยู่ที่ 4,206 ลบ. คิดเป็น 91% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61ของ Bloomberg Consensus ที่ 4,600 ลบ.

·      + HMPRO โชว์ขยายสาขา “HomePro S” แล้วจำนวน 4 สาขา ล่าสุดเปิดสาขา HomePro S สาขา เกตเวย์ แอท บางซื่อในเดือนพ.ย. คาดสร้างยอดขายต่อสาขาได้กว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน ในปี 2561 บริษัทได้ขยายสาขา HomePro S แล้วจำนวน 4 สาขา คือ “The Paseo Park” กาญจนาภิเษก, สาขาบิ๊กซี บางนา, สาขา Market Place นางลิ้นจี่ และสาขา SENA fest เจริญนคร (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + BBL เล็งขยายงานสู่แบงกิ้งเอเย่นต์ เผยอยู่ระหว่างหารือพันธมิตร พร้อมยกเครื่องระบบมุ่งสู่ดิจิทัล หนุนการให้บริการทำธุรกรรมอยู่บนออนไลน์ 90% ภายใน 3 ปี และตั้งเป้าฐานลูกค้าโมไบล์แบงกิ้งปี 62 สู่ 11 ล้านราย (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + CPALL MAKRO BJC ก.คลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีน 1-15 ก.พ.62 วงเงินคนละ 2 หมื่นบาท คืน VAT  5% เข้าบัญชีพร้อมเพย์ คาดใช้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วไปที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตชำระค่าสินค้าผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยให้รักษาระดับ 4-5% ไว้ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่เติบโตเต็มศักยภาพ

·      + AUCT ราคาปิด 6.30 บาท ราคาเหมาะสม 8.90 บาท “มุมมองบวก – ซื้อ”

AUCT เคาะรายได้ทะลุเป้า ยอดสินเชื่อ-ประมูลรถพุ่ง ลั่นปี 2561 รายได้โตเกินเป้า 14% จากปีก่อน รับยอดประมูลรถยนต์-มอเตอร์ไซต์หนุน ส่วนปี 2562 งบดีต่อเนื่อง จากยอดปล่อยสินเชื่อรถพุ่ง พร้อมรีแบรนด์ใหม่-เปิดตัวแอพประมูลผ่านดิจิทัลหวังดันลูกค้าพอร์ตทั่วไปแตะ 50% ในปี 2566

ความเห็น : เรามีมุมมองบวก และเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี61 บริษัทฯเริ่มรุกในด้านของการโฆษณาทั้งทางด้าน Social Media และล่าสุดเปิดตัว Application ใหม่ เพื่อจูงใจให้ลูกค้ารายย่อยเข้ามาประมูลมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เริ่มสะท้อนออกมาให้เห็นในงบฯ 9M61 มีกำไร 120 ลบ. เติบโตกว่า 54% โดยเราคาดกำไรปี 61 ราว 164.8 +59% “แนะนำ ซื้อ”

·      + SSP เผยโครงการโซลาร์ อผศ.กำลังผลิต 5 MW เริ่ม COD เมื่อ 30 พ.ย.แล้ว

·      + BPP เผยโซลาร์ฟาร์มนาริไอสึ ในญี่ปุ่น ขนาด 20.46  MW เริ่ม COD เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61 ตามแผน