ปรับออก 'รมต.เกษตรฯ-พาณิชย์' สังเวยสินค้าเกษตรตกต่ำ

ปรับออก 'รมต.เกษตรฯ-พาณิชย์' สังเวยสินค้าเกษตรตกต่ำ

"พรรคไทยศรีวิไลย์" จี้นายกฯปรับรมต.เกษตรฯ-พาณิชย์ สังเวยสินค้าเกษตรตกต่ำ เหตุ "กฤษฎา" รู้แต่โยกย้ายในมท. "สนธิรัตน์" เอาเวลาทำแต่การเมือง

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่างถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำว่า รัฐบาลใช้เงินแก้ปัญหา โดยไม่ใช้สมอง คิดน้อยมากเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็ไม่มีความรู้เรื่องเกษตร โดยเฉพาะปัญหายางพารา น้ำมันปาล์ม เป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเป็นข้าราชการอยู่กระทรวงมหาดไทย เก่งแต่เรื่องโยกย้าย ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ อีกสถานะก็คือเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็เอาแต่หาเสียง หาสมาชิกพรรค วางแผนการเมืองจะได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จึงไม่มีเวลาเจรจาการค้าหรือทำงานให้กับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

  “จึงถึงเวลาแล้ว ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ต้องกำจัดเนื้อร้ายและปรับบุคคลเหล่านี้ออกไปและดึงคนที่มีความสามารถมาทำงานแทน หากยังไม่ทราบจะใช้งานใคร ก็ให้มาปรึกษาผม จะแนะนำคนดี ทำงานเป็นและไม่มีเรื่องคอรัปชั่นไปช่วยรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้า ยเผื่อคะแนนจะกระเตื้องกลับขึ้นมาบ้าง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

 นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเกษตร โดยเฉพาะยางพารา รัฐบาลควรไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านอาทิ มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย ที่ผลิตยางพาราเช่นเดียวกับเรา เพื่อร่วมกันกำหนดราคาและไปเจรจาต่อรองกับบริษัทต่างชาติ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับราคาที่เป็นธรรม ไม่ใช่แข่งกดราคากันเอง หรือรัฐบาลควรจะไปหาตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเจรจากับบริษัทยางรถยนต์ของไทย 6 บริษัทให้ช่วยรับซื้อในราคาที่สูง ทั้งที่ความจริงราคายางรถยนต์มีแต่แพงขึ้น ขณะที่ยางพารากลับราคาตกต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใช่หรือไม่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 62 อยากให้ประชาชนตัดสินใจให้ดี โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ แม้วันนี้มีมาตรา 44 ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ และหากต่อไม่มีมาตรา 44 และกลับเข้ามาบริหารประเทศจึงไม่อยากคิดภาพตามว่าจะเกิดหายนะมากน้อยเพียงใด.