'ถาวร' จี้รัฐบาลช่วยชาวสวนยางให้ทั่วถึง

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.61 นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำของรัฐบาลคสช. ว่า ขอขอบคุณ รมว.เกษตรและสหกรณ์ที่ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางหรือจากชดเชยให้รายละไม่เกิน 15 ไร่ ไร่ละ 1,800 บาทแต่ก็ถือเป็นการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในระยะสั้น สิ่งสำคัญมีการใช้เงินเซส หรือกองทุนเก็บเงินสงเคราะห์จากผู้ส่งออกยาง ที่รัฐบาลเก็บจากชาวสวนยางกิโลกรัมละ 2 บาท แต่ยังมีชาวสวนยางอีกกว่า 3 แสนรายที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะปลูกยางในพื้นที่ในที่ดินที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ทั้งที่คนเหล่านี้ก็ได้เสียภาษีจากการขายยางให้รัฐในอัตราเดียวกัน จึงขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรมด้วย

นายถาวร กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาการนำยางพาราไปใช้ทำถนนตามมติ ครม. ตั้งแต่ปี 2560 ที่ระบุให้ 8 กระทรวงหลัก นำยางพาราในประเทศไปใช้เพื่อลดปริมาณยางในตลาด และเพิ่มราคารับซื้อยาง ข้าราชการ เรานี้ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม.อย่างเคร่งครัดจริงเพราะหากมีการทำจริงจะมีน้ำยางพาราหายไปจากตลาด 4 แสนตัน ราคายาวจะขึ้นไปที่ กก.ละ 60 บาทแล้ว แต่ข้าราชการทั้ง 8 กระทรวงหลัก ไม่ได้ทำจริงตามมติ ครม.สั่งโดยอ้างว่าติดเงื่อนไขกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลังเกี่ยวกับระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. สามารถใช้มาตรา 44 เข้าแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำจริงจึงขอตำหนิทั้งรัฐบาลและข้าราชการใน 8 กระทรวงหลักที่ไม่แก้ไขปัญหาปากท้องของชาวสวนยาง

กระทั่ง วันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ครม.มีมติให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทุกอบต. รวม 8.4 หมื่นแห่ง ตั้งเป้าใช้ยางพารา 9 แสนตัน ทำถนน โดยถนน 1 กิโลเมตรจะใช้น้ำยางสด 10 ตัน หรือใช้ยางแผ่นดิบ 3 ตัน จะมีปริมาณยางแผ่นดิบหายไปจากตลาดอย่างน้อย 3 แสนตัน ราคายางจะขึ้นมาที่ กก.ละ 60 บาทแน่นอน จึงอยู่ที่ รมว.มหาดไทยว่าจะมีศักยภาพกำชับให้ อปท.ทำได้จริงหรือไม่ หรือต้องให้นายกฯใช้มาตรา 44 สั่งเรื่องนี้ซ้ำอีก