ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบแคบ

บริษัทหลักทรัพย์ บล.กรุศรี ระบุว่า วานนี้ (29 พ.ย.) SET Index ปรับตัวลง -4.14 จุด (-0.25%) ปิดที่ 1,636 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท จากแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง รวมถึงดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,650 จุด โดยแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้เป็นแรงขายกลุ่ม ICT, ENERG และ PETRO สำหรับนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 580 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 7,783 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,482 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้  (30 พ.ย.) มุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัว 1,630 – 1,645 จุด เนื่องจากภาวะตลาดมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้าโดยแม้ว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นหลังรัสเซียส่งสัญญาณร่วมมือกับกลุ่มโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ตามรายงานการประชุมเฟดวานนี้ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ (คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.5% ในการประชุม 18 – 19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้น และยิ่งเป็นแรงกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติจะยังคงไหลออกต่อเนื่อง

นอกจากนี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมนอกรอบ G20 เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งส่งผลให้ภาวะตลาดมีโอกาสแกว่งตัวด้วยปริมาณซื้อ/ขายเบาบาง

สำหรับ กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ Selective Buy กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA)  ได้อานิสงส์ต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงและครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ กลุ่มไฟแนนท์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) รับผลบวกการเลือกตั้งที่ชัดเจน