แรงซื้อเก็งกำไรหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า2%
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (29พ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 2.3% จากคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
ถึงแม้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่มีแนวโน้มดิ่งลงมากกว่า 20% ในเดือนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัส ทรุดตัวลงในเดือนนี้หนักที่สุดนับตั้งแต่การเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 โดยถูกกดดันจากภาวะน้ำมันล้นตลาด และอุปสงค์ที่อ่อนแอ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดตลาดที่ราคา 51.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดตลาดที่ราคา 59.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้าที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์กันว่า โอเปกอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.0-1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ เริ่มมีความไม่แน่นอนต่อการดำเนินการของโอเปกในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่ซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการปรับลดกำลังการผลิต และไนจีเรียก็ปฏิเสธที่จะให้การยืนยันการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหม่
นายสตีเฟน เบรนนอค จากบริษัทพีวีเอ็ม กล่าวว่า การประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้ายังคงมีความไม่แน่นอน และตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันจำนวนมากในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมจี20 ที่อาร์เจนตินาในปลายสัปดาห์นี้ โดยหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
