'จตุพร' ชี้เลือกตั้งหากสุจริต วิกฤติไม่เกิด

'จตุพร' ชี้เลือกตั้งหากสุจริต วิกฤติไม่เกิด

"จตุพร" ชี้การเลือกตั้งครั้งนี้ หากเป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม วิกฤติก็จะไม่เกิด

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.61 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ประชาชนมีความหวังกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ในวันนี้เอง ก็มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้งเป็นที่ยุติแล้ว แต่เรื่องวันเวลาเลือกตั้ง ก็ยังไม่มีใครที่ระบุว่า 24 กุมภาพันธ์ 2562 คือวันเลือกตั้งที่แน่นอน สิ่งสำคัญที่ตนและนายยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะกองเชียร์ต้องการจะเห็นคือ นโยบายเรื่องการเป็นเกาะกลาง การเปิดเวทีให้คนภายในชาติที่มีความเห็นแตกต่างกันนั้น ได้มีโอกาสพูดคุยกันโดยไม่มีการเปลี่ยนจุดยืนทางการเมือง ตนเองนั้นได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่ทำหน้าที่ทำลายความขัดแย้งในประเทศไทยโดยเฉพาะคำสั่งที่ 66/23 ที่คนเข้าใจว่าสำเร็จด้วยประกาศคำสั่งฯอย่างเดียว แต่แท้ที่จริงแล้ว ได้มีการเจรจา พูดคุยกันเป็นเวลานาน ความขัดแย้งระหว่างกองทัพปลดแอกกับกองทัพไทยนั้น มีการฆ่ากันมาเป็นนับสิบปี ก็ยังสามารถพูดคุย ตกลง ยุติความขัดแย้งได้ เมื่อกลับมามองความขัดแย้งในประเทศไทยตอนนี้ ก็มีการเสียชีวิตกันทุกฝ่าย ฝ่ายตนอาจจะมากหน่อย

นายจตุพร กล่าวอีกว่า เราเองก็เห็นทิศทางของประเทศต่อไปนี้ว่า ถ้าวันนี้เรายังไม่เริ่มต้นคุยกัน พาประเทศออกจากความขัดแย้ง ด้วยการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาชาติได้อีก เพราะฉะนั้น ผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน นำพาสู่วิกฤติได้ทุกวัน ตนอยากจะเห็นว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนั้น นำพาซึ่งความหวังมาให้คนไทยอย่างแท้จริง คนไทยกลัวคำว่าไม่สงบเป็นเรื่องจริง ถ้าเราไม่ยอมรับข้อนี้เป็นข้อแรก สองคนไทยต้องการการเลือกตั้ง สามคนไทยมีปัญหาเรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาหลักๆสามข้อนี้ เป็นภาระหลักของพรรคการเมือง สาระสำคัญคือ เราจะเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง อย่างเรียบร้อยได้อย่างไร สำคัญที่สุดคือ คำว่า ประชาธิปไตย จุดยืนของคำว่าประชาธิปไตย ได้อธิบายทั้งเรื่องการกระทำ พฤติกรรมทั้งหลาย ที่จะนำสู่การตัดสินใจของประชาชน ดังนั้น ตนก็อยากจะเห็นว่า การแข่งขันครั้งนี้ เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม หากทำได้จริง วิกฤติก็จะไม่เกิด แต่ถ้าการแข่งขัน การเลือกตั้งไม่ยุติธรรมแล้วไซร้ จะนำไปสู่ความขัดแย้ง อย่างที่ใครก็ไม่ต้องการให้เกิด การเลือกตั้งครั้งนี้ ควรจะเป็นทางออกไม่ควรจะเป็นทางตัน

ด้านนายยงยุทธ กล่าวว่า ความปรองดอง ไม่ใช่ว่าจะต้องไปจับมือกับเผด็จการหรือจะต้องไปตั้งกลุ่ม ตั้งก๊วนอะไร แต่พรรคเพื่อชาติ มีพื้นที่ ที่จะสร้างการพูดคุย สังคมไทย เป็นสังคมแบบพหุนิยม คือ มีความเห็นต่างกัน แต่อยู่ร่วมกันได้ นี่คือแบบประชาธิปไตย แต่หากจะมีการแบ่งไทยเหนือไทยใต้ จะกลายเป็นมรดกบาปให้ลูกหลาน สิ่งที่เราอยากเห็นคือ เรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ดังที่ท่านหัวหน้าพรรคพูดว่า ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ จึงมาเป็นหัวหน้าพรรคในวันนี้ เพื่อได้มีโอกาสในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ ในบั้นปลายของชีวิต เป็นสิ่งที่ดีมาก ทำให้ตนมาเป็นกองเชียร์ให้พรรคเพื่อชาติ