เขียวสดใส

เขียวสดใส

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในสัปดาห์นี้ โดยวานนี้ซื้อสุทธิที่ 2,070.73 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,640.63 จุด (+6.36 จุด) Volume 3.2 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -836.68 ลบ. TFEX Net 1,619 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +3,390 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 617.70 จุดหลังประธานเฟดบอกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้น 5.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง

+ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 350เขตเสร็จแล้วตรียมประกาศ 30 พ.ย.  ชงประกาศ พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง 26 ธ.ค.

+"คิม จอง อึน" เต็มใจให้จนท.เข้าตรวจสอบฐานนิวเคลียร์หากสหรัฐดำเนินการที่เป็นประโยชน์

-น้ำมัน WTI ปิดร่วงหลังสต็อกน้ำมันดิบพุ่งและตลาดไม่มั่นใจผลประชุมโอเปก

-เฟดออกรายงานเตือนความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินจากการก่อหนี้ของภาคเอกชนที่มีงบดุลบัญชีอ่อนแอ จะทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

-สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ดิ่ง 8.9% ต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีครึ่งในเดือนต.ค.

-รายงานกนง. เผยกนง.จะประเมินสถานการณ์พัฒนาการของข้อมูลเพื่อดูจังหวะเหมาะสมของการเริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ

+/-สหรัฐเผย GDP Q3/61 โต 3.5% สอดคล้องคาดการณ์ แต่ชะลอตัวจาก Q2/61

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.87 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.93 บาท/US

*จับตา 30 พ.ย.-1 ธ.ค.ประชุมกลุ่ม G20 ซึ่งปธน.สหรัฐและจีนจะพบปะกันนอกรอบ

คาดดัชนีวันนี้มีแนวโน้มบวกต่อตามตลาดหุ้นต่างประเทศและปัจจัยการเมืองในประเทศที่มีความคืบหน้าสู่โรดแมพเลือกตั้ง  โดยมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมัน และนักลงทุนจับตาการพบปะนอกรอบของปธน.ทรัมป์-ปธน.สีจิ้นผิงในการประชุม G20  คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,632-1,656

กลยุทธ์การลงทุน  

-  งานมอเตอร์เอ็กซ์โป KKP TISCO TCAP

- ลุ้นคลังออกมาตรการช็อปช่วยชาติ CPALL HMPRO ROBINS CPN MINT CENTEL M MAKRO

- Low Beta High Dividend ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.93 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- MSCI Global Standard หุ้นเข้า : GULF MTC Small Cap หุ้นเข้า : CBG MBK PRINC

หุ้นแนะนำพิเศษ

ASK Analyst Meeting (ราคาปิด 23.80 Bloomberg Consensus 26.97) มุมมองบวก แนะนำลงทุนระยะยาวรอรับเงินปันผล

  • ในช่วง 3Q61 มีกำไร 222 ลบ. +13%YoY และงวด 9M61 มีกำไรสุทธิ 594 ลบ. +7% โดยมีสินเชื่อปล่อยใหม่ 1.1 หมื่นลบ. +5% คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นเป็นลำดับ %NPL ลดลงต่อเนื่องเหลือ 1.93% จาก 2.25% ณ ปลายงวด 2Q61 และ 2.95% ณ ปลายงวด 3Q60 เนื่องจากบริษัทบุกตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมจากที่กระจุกตัวอยู่ในสินเชื่อรถบรรทุกราว 60% ของมูลค่าสินเชื่อรวม การคัดเลือกลูกค้าที่ดีขึ้น และการปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้สิน  ผู้บริหารคาดว่า NPL ยังมีแนวโน้มลดลงต่อได้อีกเล็กน้อย
  • อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ณ ปลายงวด 3Q61 เท่ากับ 6.25 เท่าซึ่งยังต่ำกว่าระดับ Covenant ที่ระดับ 10 เท่า ขณะที่ทริส มองว่าบริษัทได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อศักยภาพในการเติบโตของสินเชื่อจากการผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐหนุนความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกในภาคอุตสาหกรรม การที่ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 6.7% เป็นระดับสูงน่าสนใจ แนะนำลงทุนระยะยาวรอรับเงินปันผล

NER Analyst Meeting ราคาปิด 2.04 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4 บาท

**บล.โกลเบล็ก เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย**

  • รายงานกำไร 3Q61 เท่ากับ 121.4 ลบ. +656%YoY +156%QoQ จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคายางพาราเริ่มปรับตัวลดลง ประกอบกับการจัดสรรต้นทุนที่ดีขึ้น %GPM ของ 3Q61 เท่ากับ 10.3% +480bps(YoY) +190bps(QoQ) ขณะที่กำไรงวด 9M61 เท่ากับ 288.1 ลบ. +3483%YoY (คิดเป็น 93.5% ของคาดการกำไรทั้งปี)

  • อัพเดท :

         i) โรงงานแห่งใหม่สำหรับผลิตยาง STR-Mixture กำลังผลิตรวม 172,800 ตัน/ปี คาดเสร็จตามกำหนด (ปลายปี 62)

         ii) เครื่องจักรเดิมซึ่งไม่ได้ใช้งาน นำมาผลิตยาง RSS-Mixture กำลังผลิต 60,000 ตัน/ปี พร้อมใช้งานต้นปี 62 (โดย1Q62 อยู่ในช่วงแสดงสินค้า และ 2Q62 จะเริ่มทำการผลิตจริง)

         iii) Project Biogas 2 โครงการ โดยโครงการแรกใช้ทดแทนแก๊ส LPG ราว 3.9 ล้านกก. พร้อมใช้งานราว 2Q62 และโครงการที่สองผลิตไฟฟ้า 2MW พร้อมใช้งานราว 3Q61 ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของโรงงาน

  • แนวโน้ม 4Q61 เข้าสู่ช่วง High Season : คาดปริมาณขายยางพาราจะอยู่ที่ราว 7 หมื่นตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3Q61 ซึ่งอยู่ที่ 5.5 หมื่นตัน นอกจากนี้ บริษัทฯมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 ราย เป็นทั้งหมด 11 ราย ขณะที่ คาดกำไรปี61(เดิม) ราว 308 ลบ. +37.5% (เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก) แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว   

·      NOK มีแนวโน้มใช้แนวทางเพิ่มทุนเพื่อแก้ปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นติดลบต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้วในงบการเงิน Q3/61 ซึ่งคงต้องให้บอร์ดเป็นผู้ตัดสินใจ ขณะที่การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าที่จะหยุดการขาดทุนให้ได้ภายในปี 62 โดยเดินหน้าสร้างรายได้จากเส้นทางบินตปท.ให้มีสัดส่วนเป็น 30% จากเดิม 20% โดยเฉพาะจุดบินไปยังอินเดีย ญี่ปุ่น และ เวียดนาม ตั้งเป้าลดคชจ.ลงอย่างน้อย 10% ของต้นทุนรวม เข่น การปลดระวางเครื่องบิน ATR 2 ลำ ให้มีแบบเครื่องบินเหลือ 2 แบบ จากเดิม 3 แบบ เพื่อลดต้นทุน (ที่มา อินโฟเควสท์)

·      + PTTEP จับตาเคาะประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ วันนี้ (29 พ.ย.61) (ที่มาทันหุ้น)   

·      ความเห็น เราคาดว่า PTTEP จะได้แหล่งบงกชเนื่องจากบริษัทมีความชำนาญในการขุดเจาะและสำรวจและเป็นผู้ดำเนินการผลิตเดิม โดยหากบริษัทได้แหล่งดังกล่าวจะช่วยให้ปริมาณสำรองพลังงานมีความมั่นคงเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลบวกต่อ PTTEP

·      + PLE เข้ารับงานก่อสร้างคารบริการสุขภาพ รพ.เวชธานี มูลค่ารวม 231.12 ลบ.

·      - NOK มีแนวโน้มใช้แนวทางเพิ่มทุนเพื่อแก้ปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นติดลบต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้วในงบการเงิน Q3/61 ซึ่งคงต้องให้บอร์ดเป็นผู้ตัดสินใจ ขณะที่การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าที่จะหยุดการขาดทุนให้ได้ภายในปี 62 โดยเดินหน้าสร้างรายได้จากเส้นทางบินตปท.ให้มีสัดส่วนเป็น 30% จากเดิม 20% โดยเฉพาะจุดบินไปยังอินเดีย ญี่ปุ่น และ เวียดนาม ตั้งเป้าลดคชจ.ลงอย่างน้อย 10% ของต้นทุนรวม เข่น การปลดระวางเครื่องบิน ATR 2 ลำ ให้มีแบบเครื่องบินเหลือ 2 แบบ จากเดิม 3 แบบ เพื่อลดต้นทุน (ที่มา IQ)

TSE Analyst Meeting ราคาปิด 2.60 บาท “มุมมองบวก”

รายงานกำไร 3Q61 เท่ากับ 126 ลบ. +25%YoY +17.8%QoQ จากการเริ่มรับรูรายได้โรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง คือ 1) โครงการ BSW ที่ จ.สุราษฎร์ธานี 4.6MW COD ในเดือน มี.ค.61 และ 2) โครงการ OSW1 ที่ จ.นครศรีธรรมราช 8.8MW COD ในเดือน ส.ค.61 ขณะที่กำไร 9M61 เท่ากับ 342.8 ลบ. +5.7%YoY

มุมมองบวก : แนวโน้มปี 62 คาดว่าผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งเต็มปี ได้แก่ โครงการ BSW ,OSW1 และ OSW2 กำลังผลิตรวม 22.2MW ประกอบกับ โครงการโซลาฟาร์ม Hanamizuki ที่ญี่ปุ่น กำลังผลิต 13.5MW พร้อม COD ต้นปี 62เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนโครงการไฟฟ้าในประเทศอื่นๆ เช่น โซลาฟาร์ม(ไต้หวัน) โซลาฟาร์ม (เวียดนาม) และพลังงานลม (เวียดนาม) คาดจะเห็นความชัดเจนราวกลางปี 62

·         SCB  หายใจคล่องขึ้น จำนวนหนี้ PACE จากกว่า 1 หมื่นล้าน ล่าสุดลงมาเหลือ 2-3 พันล้านเท่านั้น ส่วนบอร์ดธนาคารประชุมสัปดาห์นี้ วางแผนยุทธศาสตร์บริหารความเสี่ยงปี 62 รองรับ IFRS 9 คุมเข้มสินเชื่อเอสเอ็มอี บ้าน และรายใหญ่ “บุญทักษ์” นั่งบอร์ดกลั่นกรอง ลดตั้งสำรองเพิ่ม 1-2 ปีข้างหน้า กดหนี้เสียไม่เกิน 2.8% (ที่มา ข่าวหุ้น)