เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยหนุนดาวโจนส์ทะยานกว่า600จุด

เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยหนุนดาวโจนส์ทะยานกว่า600จุด

นายพาวเวล ยังระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้มีการกำหนดนโยบายล่วงหน้าว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ในระดับใด และจะทำการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสภาวะทางการเงิน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (28พ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ทะยานขึ้นกว่า 600 จุด หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดาวโจนส์ ยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม จี20 ที่อาร์เจนตินาในปลายสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนมีความหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 617.7 จุดหรือ 2.5% ปิดที่ 25,366.43 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 61.61 จุดหรือ 2.30% ปิดที่ 2,743.78  จุด และดัชนีบวก 208.89 จุดหรือ 2.95% ปิดที่ 7,291.59 จุด

ทั้งนี้ นายพาวเวล กล่าวต่อที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์กว่า “อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบตามมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยจากระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ”

อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขณะนี้ของสหัฐอยู่ที่ระดับ 2.00-2.25% และมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า และปรับขึ้น 1 ครั้งในปี 2563

การแสดงความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของนายพาวเวลวันนี้ สอดคล้องกับนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ซึ่งกล่าววานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่เฟดเริ่มต้นวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558

นอกจากนี้ คำกล่าวของนายพาวเวลยังแตกต่างจากในเดือนต.ค. ซึ่งเขาระบุว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า คำกล่าวของนายพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ