'ประยุทธ์' อยู่แบบเพลย์เซฟ รอจังหวะนั่งนายกฯ

 การจับขั้วทางการเมือง ที่ขณะนี้ได้เห็นภาพอย่างชัดเจนแล้วว่า ใครเป็นใคร และอยู่ภายใต้ชายคาค่ายไหน

000 หลังจากนี้ก็จะเริ่มเข้าสู่โหมดในการ “วางหมาก” เพื่อเดินเกมในการสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

000 โดยเฉพาะในส่วนของ “พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)” ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทัพผู้สมัคร หลังปล่อย “พลังดูด” บรรดา “บิ๊กเนม” อดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. รวมถึงคนดังจากทุกวงการกว่า 1,300 คน เข้าร่วมงานกับพรรค

000 ขณะที่การ “ชูธง” บุคคลที่จะลงตำแหน่งชิงนายกฯชัดเจนแล้วว่า มีเพียงหนึ่งเดียวคือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขณะนี้รอเพียงสัญญาณเทียบเชิญรับตำแหน่งเท่านั้น

000 แต่ทว่า ประเด็นเกี่ยวกับทิศทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ กลับมีคำถามตามมาถึงการชิงตำแหน่งนายกฯทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเจ้าตัวออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ไม่จำเป็นต้องสมัครอะไรทั้งสิ้น” เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับ

000 สอดคล้องกับ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายที่พูดถึงเรื่องนี้ว่า “พรรคการเมืองสามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคละไม่เกิน 3 คน และไม่ได้ระบุว่าบุคคลนั้นๆ ต้องเป็นสมาชิกพรรค”

000 ทั้งนี้ หากเปิดดูรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะพบว่า ประเด็นนี้ระบุเพียงแค่ “ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ต้องแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอให้เป็นนายกฯ 3 คนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนวันปิดรับสมัครเลือกตั้งและกกต.ต้องประกาศรายชื่อให้ประชาชนทราบก่อนวันเลือกตั้ง” นอกจากนี้ “พรรคที่เสนอชื่อต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ต้องไม่ขาดคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และต้องไม่เสนอชื่อบุคคลใดซ้ำกัน2พรรค”

000 สรุปง่ายๆคือผู้ที่จะมาเป็นนายกฯรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.หรือเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

000 อีกนัยหนึ่งการที่ “บิ๊กตู่” เลือกที่จะไม่สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อาจเป็นเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่จะตามมาหากมีการสมัครสมาชิกพรรคคือกระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ 4 รัฐมนตรีที่ไม่สมัครสมาชิกพรรค

000 ดังนั้นการเลือกที่จะไม่สมัครสมาชิกพรรคจึงเป็นเสมือนการต่อเวลาในตำแหน่งนายกฯ รวมถึงการดันนโยบาย การ “หว่านเม็ดเงิน”ในโครงการต่างๆ ที่จ่อคิวให้รัฐบาลไฟเขียวอยู่ในขณะนี้ เพื่อเลี่ยงเสียงครหาในเรื่องการหวังผลที่อาจเข้าข่ายการหาเสียง ซึ่งอาจนำไปสู่การยื่นตีความในท้ายที่สุด

000 ด้วยเหตุผลเหล่านี้ “บิ๊กตู่” จึงเลือกที่จะสวมหมวกใบเดียว หรืออยู่แบบ “เพลย์เซฟ” เพื่อรอจังหวะนั่งเก้าอี้นายกฯเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า!!

000 จากนี้คงต้องจับตา ผลการหารือระหว่างพรรคการเมืองและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 7ธ.ค.นี้ ซึ่งล่าสุดรองนายกฯวิษณุ ออกมายืนยันว่า ในวันดังกล่าวจะมีความชัดเจนในเรื่องการปลดล็อกพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง ไปจนถึงการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งส.ส.