ทีมกำแพงเพชร จากเพื่อไทย ซบ พชปร.

ทีมกำแพงเพชร จากเพื่อไทย ซบ พชปร.

"สุริยะ" นำทีม กำแพงเพชร จากเพื่อไทย ซบ พปชร.-ลูกชายบุญทรง มาร่วมด้วย ด้าน "อุตตม" ยันไม่มีเรื่องต่อรอง ก่อนดึงร่วมทีม ด้าน "ไผ่" อึกอัก หลังถามกระแส พปชร. จะชนะ พท.​ในพื้นที่หรือไม่

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีกลุ่มนักการเมืองที่น่าสนใจทยอมสมัครเป็นสมาชิกพรรค อาทิ กลุ่มกำแพงเพชร ที่ย้ายจากพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายไผ่ ลิกค์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย, นายอนันต์ ผลอำนวย และ นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ รวมถึงนายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายฐานิสร์ เทียนทอง หลานชายนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานในส่วนของกลุ่มกำแพงเพชร นั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายอนุชา นาคาศัย แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้นำทีมมาด้วยตนเอง ขณะที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้เข้าต้อนรับและกล่าวยินดีที่ได้ร่วมงานทางการเมือง

ทั้งนี้นายอนุชา กล่าวตอบคำถามประเด็นของนายวราเทพ รัตนากร อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยในกลุ่มคนสนิทของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ต่อทิศทางการเมือง ว่า นายวราเทพ ไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือทำกิจกรรมใดๆ ทางการเมืองได้ เนื่องจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง ส่วนความสัมพันธ์ของนายวราเทพ กับนางเยาวภานั้นเบื้องต้นทราบว่าเป็นไปด้วยดี

ขณะที่นายไผ่ ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันถึงการตัดสินใจยกทีมลาออกจากพรรคเพื่อไทยว่าไม่ใช่เพราะความขัดแย้ง แต่เป็นเพราะต้องการเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองละทำงานเพื่อประชาชน ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าในการลงเลือกตั้งจะได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.​ส่วนกระแสความนิยมในพื้นที่ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐนั้นตนตอบไม่ได้

ส่วนนายเดชณัฐวิทย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคโดยชี้แจงถึงเหตุผลที่ขอลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีความอึดอัดใจหลังจากทนายความของอดีตนายกฯ ให้ข่าวโจมตีอาการป่วยของนายบุญทรง ว่าเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อย่างที่หลายฝ่ายทราบว่านายบุญทรงต้องโทษจำคุกเพราะอะไร อย่างไรก็ตามการตัดสินใจถอยก้าวหนึ่งจากพรรคเพื่อไทยและถึงการตัดสินใจลาออก ตนใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร และได้ปรึกษานายบุญทรงด้วย

"พ่อบอกกับผมว่าขอให้พิจารณาด้วยตัวเอง เพราะบทบาทการเมืองต่อไปคือเป็นเรื่องของผม ส่วนเรื่องทางการเมืองของพ่อนั้นจบไปแล้ว และก่อนจะตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ พ่อได้แนะนำผู้ใหญ่ 2 คนที่นับถือตั้งแต่อยู่พรรคไทยรักไทย คือ นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และจากพูดคุยกับผู้ใหญ่ทั้ง 2 คนเห็นว่าแนวทางการทำงานไปด้วยกันได้ จึงตัดสินใจเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่มีการต่อรองใดๆ เพราะจากนี้สิ่งที่ผมต้องทำให้พ่อคือรักษาสุขภาพของพ่อก่อน" นายเดชณัฐวิทย์ กล่าว

ต่อเรื่องนี้นายอุตตม กล่าวยืนยันว่ากรณีที่อดีตสมาชิกของพรรคเพื่อไทยย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เพราะใช้คดีมาต่อรอง หรือปัจจัยอื่นดึงตัว แต่เหตุผลสำคัญที่ตนเชื่อว่าสิ่งที่อดีตสมาชิกของพรรคการเมืองตัดสินใจเข้าร่วมงานนั้นอยู่บนเหตุผลและอุดมการณ์ที่ตรงกันกับพรรคพลังประชารัฐ

นายอุตตม ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมบุคคลเพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้ง ว่า มีความคืบหน้าไปมาก และหลังจากวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่จะครบเกณฑ์ 90 วันในการสังกัดพรรคการเมืองเพื่อมีคุณสมบัติในการส่งสมัครรับเลือกตั้ง พรรคจะได้หารือถึงประเด็นดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง