อัยการสั่งตำรวจตั้งข้อหา 'ปปช.' ชักปืนขู่แท็กซี่เพิ่ม

อัยการสั่งตำรวจตั้งข้อหา 'ปปช.' ชักปืนขู่แท็กซี่เพิ่ม

รองโฆษกอัยการ เผย พฤติการณ์เข้าข้อหาข่มขืนใจโดยมีอาวุธทำให้กลัวเกิดอันตราย ม.309 วรรคสองด้วย รอแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่งใหม่ให้อัยการคดีอาญาสั่งแทน เหตุโทษเกินอำนาจ

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 61 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 9 (แขวงดอนเมือง) ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ในคดีอาญา ที่ 1268/2561 ซึ่ง ร.ต.อ.สหรัตน์ หลวงสิริธนสิน ได้กล่าวหา นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในข้อหา พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร , ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ซึ่งคดีนี้ พนักงานอัยการเห็นว่าเป็นคดีสำคัญ ฐานะผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูง อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ

โดยพนักงานอัยการคดีศาลแขวง 9 พิจารณาแล้ว ได้มีคำสั่งให้คืนสำนวนแก่พนักงานสอบสวน เพราะเกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้พิจารณา เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ถ้าได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของอัยการสำนักงานคดีอาญา ดังนั้น พนักงานสอบสวน จึงต้องนำสำนวนกลับไปแจ้งข้อหาในส่วนนี้เพิ่ม แล้วนำส่งอัยการสำนักงานคดีอาญาเพื่อที่จะมีคำสั่งอย่างไรต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าวที่กลายเป็นคดี สืบเนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปภาพกล้องติดรถยนต์ในสื่อโซเชียลก่อนจะเป็นข่าวดัง โดยปรากฏภาพชายคนหนึ่งลงจากรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ด ซึ่งภายหลังทราบว่าคือ นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ชักปืนออกมาขู่คนขับรถแท็กซี่ที่ขับตามหลังมา ช่วงบริเวณหน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีการอ้างว่ามีการขับรถปาดหน้ากัน และยังมีการหยุดรถกะทันหัน รวมทั้งบีบแตรใส่กันด้วย