'วิจัยไทย' ขอเวลา 7 ปีแซง 'มาเลย์'

'วิจัยไทย' ขอเวลา 7 ปีแซง 'มาเลย์'

Big Data Analysis 'วิจัยไทย' ขอเวลา 7 ปีแซง 'มาเลย์'

รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมาล้วนตระหนักถึงความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรม ในฐานะกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เริ่มจากความพยายามตั้งสภาวิจัยแห่งชาติ เมื่อปี 2477 แต่สำเร็จในอีก 20 ปีถัดมา

ขณะที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ตั้งเป้าให้เป็นเครื่องมือนำพาประเทศหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และจะเริ่มเห็นผลในอีก 10 ปีข้างหน้า

1_25

แผนยุทธศาสตร์นี้จะกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนด้านการวิจัยเพิ่มเป็น 80% จากปัจจุบัน 73% ซึ่งเป็นตัวเลขการลงทุนวิจัยที่แซงหน้าภาครัฐ และอัตราการเพิ่มงบวิจัยประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากปี 2559 อยู่ที่ 0.78% มีแนวโน้มว่าจะถึง 1% ในปีนี้และคาดว่าจะแตะ 2% ของจีดีพีในปี 2568 เป็นลักษณะเดียวกับเกาหลีใต้และจีน

คุณภาพนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ณ ปัจจุบันทั้งจำนวนนักวิจัยและค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยของไทยอยู่อันดับที่ 3 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ขอเวลาอีก 7 ปี

เมื่อทุกภาคส่วนเดินตามแผนยุทธศาสตร์ฯโดยภาคเอกชนได้รับแรงจูงใจที่เพียงพอรัฐบาลขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กว้างขึ้น
มีมาตรการผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เชื่อว่า สถานการณ์วิจัยไทยจะไต่ไปอยู่แถวหน้าในอาเซียนได้สำเร็จ