ป.ป.ส. จัดสัมมนา 'การใช้กัญชาทางการแพทย์'

ป.ป.ส. จัดสัมมนา 'การใช้กัญชาทางการแพทย์'

ป.ป.ส. จัดสัมมนา “การใช้กัญชาทางการแพทย์” ประสบการณ์ของประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และเนเธอร์แลนด์

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “การใช้กัญชาทางการแพทย์ : ประสบการณ์ของประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และเนเธอร์แลนด์” โดยมีนายพงศธร สัจจชลพันธ์ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอาดพรรค คณะทํางานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้แทนจากสถานทูต ทั้ง 3 ประเทศ เข้าร่วมรับฟังการสัมมนา พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ศึกษาการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบายเกี่ยวกับกัญชาและดูงานของภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์ยาที่ได้มาจากกัญชา และเห็นว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการใช้กฎหมายใหม่ที่จะมีเรื่องการอนุญาตให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย จึงได้เชิญวิทยากรจากประเทศต่างๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ มาแลกเปลี่ยนความรู้จากการศึกษาค้นคว้าและถ่ายทอดประสบการณ์จากการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ เริ่มจากการปลูก เก็บเกี่ยว ขนส่ง นำไปสกัดแปรรูปเป็นยา จนกระทั่งแพทย์และเภสัชกรนำยาเหล่านี้ไปใช้ในการรักษาผู้ป่วย

สำหรับวัตถุประสงค์ของการสัมมนาครั้งนี้ ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายหลักที่เข้าร่วม คือ ผู้ที่จะต้องออกกฎระเบียบ (Regulator) ในการควบคุมการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ โดยมีนักวิชาการในสายที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ เภสัช เกษตร สายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมากกว่าบุคคลที่สนใจหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วไป เนื่องจากยังต้องเตรียมการสร้างความรับรู้ความเข้าใจต่อทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อรองรับกฎหมายที่จะออกใหม่ ให้เข้าใจว่าการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถึงอย่างไรรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้ให้อย่างเร็วที่สุด ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวัง เพราะเราต้องการนำส่วนที่ดีของกัญชาไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยารักษาโรคที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรนำกัญชามาใช้เป็นยาเสริม หรือเป็นทางเลือกของแพทย์และผู้ป่วยเองในการรักษาโรค หรือเพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระหว่างการรักษาโรค