คำตอบจาก 'เมืองหลวง' นิสิตได้อะไรจากค่ายผลิตสารคดีเพื่อชุมชน

คำตอบจาก 'เมืองหลวง' นิสิตได้อะไรจากค่ายผลิตสารคดีเพื่อชุมชน

"การเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ทำ ซึ่งมันคือประสบการณ์ที่ดีมากๆ..ชาวบ้านเมืองหลวงน่ารักและต้อนรับกันเป็นอย่างดี"

การเรียนรู้จาก "ค่ายผลิตสารคดี" ผลิตสื่อเพื่อชุมชน ของกลุ่มนิสิตสาขานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) จำนวน 160 คน ลงพื้นที่เข้าค่ายพักค้างในชุมชนบ้านเมืองหลวง ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ช่วงวันที่ 12-15 พ.ย. ที่ผ่านมา

6_4

โดยมี ผศ.ดร.ปรีชา สาคร หัวหน้าภาควิชานิเทศศาสตร์ พร้อมด้วยทีมวิทยากร อย่าง นิติราษฎร์ บุญโย บรรณาธิการเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก , อดิสรณ์ อันสงคราม นักวิชาการด้านการผลิตสื่อวิดีทัศน์ , สถิตย์ ผลทิพย์ อดีตนายกฯองค์การนิสิต มมส และนักกิจกรรมพัฒนาชุมชน และผู้นำชุมชนแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ผอ.สมศักดิ์ ดวงนิล โรงเรียนบ้านเมืองหลวง ในการให้สถานที่พักและจัดกิจกรรม

11_2

หลังจากจบค่ายดังกล่าวแล้ว มีความคิดเห็นของน้องๆ ในค่าย น่าสนใจอยู่เหมือนกัน..

"มีน" น.ส.สุชานันท์ พิสิษฐ์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มมส เผยความรู้สึกว่า สนุกถึงแม้จะลำบาก แต่ก็มีความสุขจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เพราะชาวบ้านที่นี่เป็นมิตร และให้การต้อนรับอย่างดี ทำให้ได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรู้และได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

1_9

"ได้ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเพื่อนๆคนอื่น รวมถึงประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในที่ต่างถิ่น ได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม ประเพณี หรือวิถีชีวิตของชาวบ้าน..จากการทำงานเป็นกลุ่มทำให้ได้ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันกับเพื่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการทำงานร่วมกับคนทีไม่สนิท แต่ก็สามารถปรับตัวเพื่อให้งานสารคดีชิ้นนี้สำเร็จลงได้"

"ขนุน" น.ส.ศุภิสร ปิ่นทอง สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มมส บอกว่า ค่ายนี้มีเสน่ห์ลึกๆตรงที่ได้ใกล้ชิดกับวิถีความเป็นอยู่ ความเชื่อ ของชาวบ้านบ้านเมืองหลวง จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันความเชื่อหลายๆ อย่างที่้เริ่มหายไปบ้างในบางพื้นที่ แต่ที่บ้านเมืองหลวงยังมีความเชื่อที่หนักแน่นไม่เว้นแม้แต่เด็ก และเยาวชน ตลอดระยะเวลาที่เข้าค่ายก็ดีนะ การทำงานเป็นกลุ่มถึงแม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะทำอะไรไม่เป็น แต่ก็ทำเท่าที่ตนเองทำได้ รวมๆแฮปปี้ เด็กๆน่ารักค่ะ

2_16

"ฟลุ๊ค" นายพลกฤต พงษ์กองเงิน สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มมส มองค่ายนี้ให้ประสบการณ์ที่ Exclusive ในการลงพื้นที่จริง ทำจริง และทำเอง เพราะค่ายมีเฉพาะเพื่อนชั้นปีเดียวกัน ต่างจากค่ายอื่นที่กิจกรรมส่วนมากจะมีรุ่นพี่พาทำ

3_10

"ความรู้สึกในตอนแรกรู้สึกกลัวและกังวล แต่หลังจากได้รับมอบงานกลับมีความรู้สึกท้าทาย อยากทำสารคดีออกมาให้ถูกต้องและดีที่สุด ลงพื้นที่ในหมูบ้าน เพื่อสอบถามและเก็บข้อมูล สำคัญมากคือการสื่อสารจุดประสงค์ของเรากับชาวบ้านให้เข้าใจ การเข้าไปต้องทำให้รู้สึกเป็รมิตรและปลอดภัย เรื่องการพูดคุย ภาษาถึงแม้จะเป็นภาษากลางหรืออีสานที่ฟังออก แต่ก็เป็นสำเนียงไม่คุ้นเคย การลงพื้นที่ชุมชนเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เข้าใจการทำงานมากขึ้น เจอปัญหาจริง และแก้ปัญหาร่วมกัน"

การทำงานเป็นกลุ่มเป็นพลังใจที่สำคัญมาก ไม่ได้เผชิญปัญหาคนเดียว เพราะมีเพื่อนที่ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไขปัญหา ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และได้คำแนะนำในการทำงานทั้งจากในกลุ่มและเพื่อนกลุ่มอื่น และอุปกรณ์บางอย่างที่กลุ่มเราไม่มี ก็ได้รับการ support จากเพื่อนกลุ่มอื่น เป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานของกลุ่มออกมามีคุณภาพมากขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกดีและประทับใจมากๆ

คำตอบจาก \'เมืองหลวง\' นิสิตได้อะไรจากค่ายผลิตสารคดีเพื่อชุมชน

"ซินดี้" นวพล เพิ่มพูลผล สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มมส เผยว่าทำให้เราได้ฝึกการใช้กล้องและฝึกทำคอนเท้นท์แนวสารคดีอีกทั้งการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างไรให้งานออกมามีประสิทธิภาพและก็ยังสามารถสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆคนที่ไม่ค่อยสนิทกันได้อีกด้วย

"ร้อนมาก ส่วนตัวแล้วเป็นคนขี้ร้อนพอได้มาที่ค่ายนี้คือตัวเปียกแทบจะทั้งวัน แต่การต้อนรับจากชาวบ้านคือต้องบอกเลยค่ะว่า น่ารักมากๆ ทำให้ตัวเราเองรู้สึกถึงความเป็นอยู่วิถีชีวิตชนบทมากขึ้น..ครั้งแรกเราอยากอยู่กลุ่มกับเพื่อนเพราะเราคิดว่าการทำงานกับเพื่อนที่เข้าใจกันและเทสตรงกันมันจะสามารถทำใฟ้งานออกมาดีได้ พอโดนแรนด้อมจัดกลุ่มก็ในแป้วแล้ว แต่ผลสุดท้ายคือการแรนด้อมคนมันก็ทำให้ตัวเราเองมีมิตรสัมพันธ์กับคนอื่นๆมากขึ้นได้เรียนรู้เทสของกันและกันมีไอเดียอะไรก็แชร์กัน และการทำงานกลุ่มครั้งนี้ทำให้ตัวเราเองได้รับฟังความเห็นจากคนอื่นๆมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีค่ะ"

"ปอม" นายอานนท์ อินทร์สงเคราะห์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการสารสนเทศ มมส มองว่าการมาค่ายครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่าได้อะไรมากกว่าที่คิด ทั้งมุมมองและทัศนคติที่มีต่อความเชื่อของคนในหมู่บ้านบ้านเมืองหลวงที่เคารพและศรัทธาต่อความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ ผลที่ตามมาคือเป็นที่พึ่งทางใจและเป็นแพทย์ทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งของคนในหมู่บ้าน

5_7

"รู้สึกประทับใจในการออกค่ายครั้งนี้ เพราะเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ทำ ซึ่งมันคือประสบการณ์ที่ดีมากๆ..ชาวบ้านบ้านเมืองหลวงน่ารักและต้อนรับกันเป็นอย่างดี ถึงแม้การทำงานของเราจะติดขัดหรือมีปัญหาเข้ามาแทรกเล็กน้อยแต่ชาวบ้านก็มีน้ำใจช่วยเหลือเกือบทุกอย่าง ทำให้ตัวเราเองรู้สึกประทับใจ นับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่น่าจดจำสำหรับการออกค่ายในครั้งนี้"

การทำงานเป็นกลุ่ม ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะซัพพอร์ตกันและกันเลยทำให้การทำงานกับเพื่อนร่วมกลุ่มที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเป็นไปอย่างราบรื่นและสนิทกันเร็วขึ้น ซึ่งไม่คิดเลยว่าเพื่อนในกลุ่มแต่ละคนจะให้ความสำคัญต่องานที่ทำได้อย่างเต็มที่

นี่คือคำตอบ..จากการเข้าค่ายด้วยการเรียนรู้จริงนอกห้องเรียน!!