'ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง' ช่วยเด็กจน

'ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง' ช่วยเด็กจน

กสศ.เผยครอบครัวยากจนมีโอกาสเรียนต่อสูงกว่าม.ปลายเพียง 5% เปิดตัว ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปฏิรูปการเรียนการสอน สร้าง “นวัตกรอาชีวะ” ประเดิมปีแรก 2,500 ทุน ผ่านสถาบันการศึกษา เริ่มปีการศึกษา 62 นี้

นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า ปัจจุบันนักเรียนจากครอบครัวยากจนมีโอกาสเรียนต่อสูงกว่าม.ปลายเพียง 5 %ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยครอบครัวทั่วไปที่ได้เรียนต่อระดับอุดมศึกษาถึง 32% กสศ. จึงมีโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เพื่อช่วยเหลือเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่มีศักยภาพ ให้มีโอกาสเรียนต่อสายอาชีพและมีงานทำทันทีเมื่อจบการศึกษา ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาสายอาชีพทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเป็นโครงการลักษณะพันธมิตรกับเครือข่ายสถาบันการศึกษา มีการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่สร้างกำลังคนสายอาชีพ ให้มีสมรรถนะและทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้ความสำคัญกับสาขา STEM (วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี) รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และทักษะอาชีพการทำงานตาม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลและความต้องการตลาดแรงงานในท้องถิ่น


“ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนนอกจากจะสร้างกำลังคนรุ่นใหม่สายอาชีพราวรุ่นละ 2,500 คน ยังเป็นการสร้างโอกาสสู่การศึกษาระดับสูงแก่นักเรียนที่มีศักยภาพแต่มีอุปสรรคทางรายได้ของครอบครัว โครงการยังมุ่งปฏิรูปการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาสายอาชีพ ให้สามารถผลิตกำลังคนที่สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการผลิตและภาคธุรกิจ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0”นายสุภกร กล่าว


ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กระทรวงแรงงานประมาณการว่าในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ EEC สิบปีจากนี้ (2561-2570) ภาคอุตสาหกรรมต้องการแรงงานสายอาชีพเป็นอันดับสูงสุด 44% จำนวนราว 80,000 คน ขณะที่ต้องการวุฒิปริญญาตรีราว 33% กสศ. มีภารกิจหลักในการสร้างเสริมโอกาสแก่เด็กและเยาวชนผู้ขาดโอกาสซึ่งมีจำนวนถึงรุ่นละ 150,000 คน ผลการวิเคราะห์คะแนน PISA พบว่านักเรียนช้างเผือกของไทยมีประมาณ 3% แต่หากขจัดอุปสรรคด้านทุนการศึกษาจำนวนนักเรียนช้างเผือกจะเพิ่มขึ้นเป็น 18% กสศ. จึงสนับสนุนทุนให้นักเรียนที่มีศักยภาพสูงเรียนต่อสายอาชีพ โดยในขั้นตอนแรกจะคัดเลือกสถาบันการศึกษาที่สนใจและมีแผนดำเนินงานที่ดีที่สุดก่อน จากนั้นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจะพัฒนาการเรียนการสอน เช่น ระบบทวิภาคี ระบบดูแลนักศึกษา เป็นต้น เพื่อจัดรับสมัครนักศึกษาให้ทันในปีการศึกษา 2562


ด้าน นายนักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย ที่ปรึกษา กสศ. กล่าวว่า ผลประโยชน์ที่จะได้รับ กสศ.ได้คำนวณ ผลตอบแทนของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพขั้นสูง จากนักเรียนผู้รับทุน 2,500 ทุนในปีแรก จากข้อสมมติฐานว่าผู้รับทุนทุกคนทำงานหลังจบการศึกษาจนถึงเกษียณอายุ 60 ปี จะคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV ) ประมาณ 10,000 ล้านบาท หรืออัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR หรือ Internal Rate of Return) อยู่ที่10% โครงการนี้ยังสร้างผลประโยชน์ทางอ้อมให้แก่ ผู้รับทุน เช่น ผู้รับทุนมีความพึงพอใจในงานเพิ่มขึ้น อัตราการออกจากการศึกษาของสายอาชีพน้อยกว่าการศึกษาประเภทอื่น และมีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้ายแรงงาน ผลประโยชน์ในแง่ของนายจ้าง ผลลัพธ์ของโครงการจะสามารถเพิ่มผลิตภาพการผลิตของบริษัทให้สูงขึ้น และประหยัดต้นทุนของบริษัทในการสรรหาแรงงานทักษะ และลดอัตราการเข้าออกของพนักงานในบริษัท ขณะที่แง่เศรษฐกิจภาพรวม จะช่วยให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมของรัฐ การเพิ่มรายได้ภาษี และลดปัญหาความยากจน


นายสมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า สังคมไทยยังยึดติดกับภาพลักษณ์ของเด็กอาชีวะในเรื่องความรุนแรง การทำร้ายร่างกาย การสูญเสียชีวิต ตรงนี้ทำให้สัดส่วนการเรียนสายอาชีพถดถอยลงมาโดยตลอด ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับสายสามัญศึกษาที่อยู่ประมาณ 60-70% สวนทางกับทิศทางการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ทั้งที่เส้นทางหลักที่จะเป็นกระดูกสันหลังของประเทศในทศวรรษหน้า คือการเรียนในสายสัมมาอาชีพ แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องนี้มาก ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงของ กสศ. จึงเป็นความก้าวหน้าสำคัญที่จะช่วยปฎิรูประบบการเรียนการสอนสายอาชีพให้ดีขึ้น


ทั้งนี้ สำหรับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง จะสนับสนุนงบประมาณผ่านสถาบันการศึกษาประกอบด้วย ทุนสำหรับพัฒนาสถาบันการศึกษาที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกตามคุณภาพ ประมาณ 50 แห่ง ซึ่งต้องพัฒนาหลักสูตรที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของประเทศ สายอาชีพที่กำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงานในท้องถิ่นหรือจังหวัด รวมถึงสายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และทุนการศึกษาแก่นักศึกษาจำนวน 2,500 ทุนต่อปีที่ผ่านการคัดเลือกโดยสถาบันการศึกษา โดยเปิดกว้างให้สถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาสายอาชีพจากทุกสังกัด ทั้งนี้กำหนดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่ วันที่ 15 - 28 ธันวาคม 2561 และสามารถติดตาม ข่าวสารที่ www.EEF.or.th หรือ สายด่วน โทร 02-079-5475 กด 2