รถเมล์ร่วมฯ ขอขึ้นค่าตั๋ว 3 บาท เผย หยุดวิ่งแล้ว 2 พันคัน

รถเมล์ร่วมฯ ขอขึ้นค่าตั๋ว 3 บาท เผย หยุดวิ่งแล้ว 2 พันคัน

สมาคมรถร่วม ขสมก. และพนักงาน กว่า200คน เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีคมนาคม ขอปรับขึ้นค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง หลัง3ปี ไม่ได้ปรับขึ้น ทำให้ต้องแบกรับต้นทุน จนต้องยุติการให้บริการไปแล้ว 2,000 คัน

สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง รถร่วมบริการ นำโดย นายวิทยา เปรมจิตต์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกขน นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสารกว่า 200 คน เดินทางมายังกระทรวงคมนาคม หลังจากที่ได้นำหนังสือ ขอปรับอัตราค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง นำส่งถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และขอเข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้ทำตามสัญญาที่เคยรับปากไว้เมื่อ 3 ปีก่อน

นางภัทราวดี เปิดเผย ก่อนเข้าพบรัฐมนตรีคมนาคมว่า ผู้ประกอบการ ต่างได้รับความเดือดร้อน การเก็บค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ขณะนี้ ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แม้ขนส่งทางบกกลางได้พิจารณาปรับค่าโดยสารรถประจำทางธรรมดา รถร้อน จากเดิม 8 บาทเป็น 9 บาท รถปรับอากาศปรับขึ้นระยะละ 1 บาท แต่เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น เฉพาะค่าใช้จ่ายของ NGV ที่ปรับสูงขึ้น ที่ผ่านมาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่รายได้ลดลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักเพราะค่าโดยสารไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

การใช้ NGV เครื่องยนต์สิ้นเปลืองอะไหล่ เพราะใช้ความร้อนสูง ค่าจ้างขั้นต่ำที่ปรับขึ้น 2 ครั้ง ปัจจุบัน 325 บาท การจราจรที่ติดขัดวิ่งได้น้อยลง ขณะที่ประชาชนมีทางเลือกไปใช้บริการทางเลือกอื่นมากขึ้น ขณะเดียวกันทางรถร่วมพยายามปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ รถปรับอากาศที่คิดราคาเหมาจ่าย 40 บาท ขึ้นได้ทั้งวัน ยื่นไป 1 ปีกว่า แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา แต่หากจะให้เปลี่ยนรถใหม่ ก็ไม่มีความชัดเจนถึงราคาการจัดเก็บ ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็ขาดสภาพคล่อง ยืนยันว่าการมาเรียกร้องไม่ใช่ว่า จะขู่หยุดเดินรถ แต่ขณะนี้ได้หยุด ให้บริการไปแล้วกว่า 2,000 คัน เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว

“ในวันนี้เราหยุดรถไปครึ่งหนึ่งแล้วไม่ใช่การข่มขู่ ไม่ได้เรียกร้องให้ซื้อรถ เพียงแต่ว่าให้มาซื้อรถ ขสมก.กำลังซื้อรถใหม่ มีรัฐสนับสนุน แต่รถร่วมเอกชน พร้อมที่จะทำรัฐกลับไม่อนุมัติ. ที่ผ่านมาอยู่ได้เพราะประชาชนใช้บริการรถสาธารณะ แต่ปัจจุบันประชาเลือกใช้ รถไฟฟ้ามากขึ้น “นางภัทรวดี กล่าว

ด้านนายวิทยา เปรมจิตต์ วิทยา นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า อยากให้กระทรวงคมนาคมทำแผนธุรกิจมาให้ชัดเจน ถ้าเปลี่ยนรถใหม่จะให้จัดเก็บค่าโดยสารที่เท่าไหร่ เชื่อว่าหากคมนาคม อนุมัติให้ปรับขึ้นรถธรรมดา หรือ รถร้อน อีก 3 บาท จาก 9 บาทเป็น 12 บาท และรถปรับอากาศปรับขึ้น ระยะละ 2 บาท จาก 13 เป็น 15 บาท ประชาชนจะได้รับบริการที่ดีขึ้น
อยากให้ทำแผนให้ชัดเจน ทุกวันนี้เราบริการไปวันๆ ขาดทุนตลอด ที่เราขอปรับรถรัอน หากยอมให้ปรับประชาชนจะได้รับการบริการที่ดีกว่าเดิม

นายวิทยา ระยุด้วยว่า การไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร เพราะเป็นการเมือง หวั่นกระทบกับฐานเสียงและคะแนนความนิยม และอยากให้คมนาคม เร่งดำเนินการแก้ปัญหาผู้ประกอบการรถร่วมโดยเร็ว

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้ส่งตัวแทนมารับฟังข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการรถร่วม