ผู้นำเอเปคเริ่มหารือการค้าเสรี-รวมกลุ่มเศรษฐกิจ

บรรดาผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ซึ่งประชุมร่วมกันที่เมืองพอร์ต มอเรสบี้ เมืองหลวงของปาปัวนิวกินี  เริ่มหารือในประเด็นส่งเสริมการค้าเสรี และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในที่ประชุมวันนี้ คือเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อต่อสู้กับนโยบายกีดกันทางการค้า ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้นำจาก 21 ชาติสมาชิกเอเปค ได้เดินทางมาร่วมหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการเปิดตลาด และการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ในช่วงเวลาที่สหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ กำลังต่อต้านจีนที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ให้การอุดหนุนภาคอุตสาหกรรม และใช้มาตรการอื่นๆที่บิดเบือนตลาด

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเอเปค เมื่อวานนี้ ด้วยการกล่าวโจมตีจีน ที่ดำเนินนโยบายการค้าไม่เป็นธรรม รวมถึงการที่จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งประกาศว่า  สหรัฐจะไม่ยุติการใช้มาตรการการค้ากับจีน จนกว่าจีนจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าให้มีความยุติธรรม

“ที่ผ่านมา สหรัฐ ใช้มาตรการที่จริงจังในการแก้ไขภาวะไร้สมดุลทางการค้ากับจีน โดยสหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ และสหรัฐจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก” นายเพนซ์ กล่าว

ส่วนนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์วันเดียวกันด้วยการย้ำว่า นโยบายกีดกันทางการค้าและการดำเนินนโยบายเพียงฝ่ายเดียว จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับกล่าวว่า ไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า

ประธานาธิบดีจีน ยังกล่าวด้วยว่า การเปิดกว้างและการร่วมมือกันเท่านั้น ที่จะสร้างโอกาสและการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการปกป้องระบบการค้าพหุภาคี ซึ่งถือเป็นระบบที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ให้ความสำคัญ