รถไฟขบวนสินค้า ขยี้ชาวบ้านเดินริมทางดับ

วันที่ 17 พ.ย. 61 เวลา 21.30 น. ร.ต.อ.ประเสริฐ เดชสุภา รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีคนถูกขบวนรถไฟเฉี่ยวชนเสียชีวิต บริเวณสะพานรถไฟข้ามคลองบางพระ ก่อนถึงสถานีรถไฟบางพระประมาณ 700 เมตร พื้นที่ ม.4 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบนรางเดินรถที่หนึ่งจากสถานีชุมทางรถไฟฉะเชิงเทรา มุ่งหน้าฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงระหว่างหลัก กม.ที่ 54-55 พบร่างของ นายสมชาย โสสลาม อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/4 ม.4 ต.บางเตย ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับรางรถไฟห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงประมาณ 35 เมตร นอนหงายเสียชีวิตตกอยู่ที่ขอบทางข้างสะพานข้ามคลอง

สภาพกะโหลกศีรษะมีรอยแตกแยกออกจากกันลักษณะคล้ายถูกล้อรถไฟเหยียบทับ ที่ข้อเท้าด้านซ้ายมีรอยถูกเหยียบจนขาขาดติดห้อยอยู่กับหน้าแข้ง บริเวณพื้นหินปูรางรถไฟพบเศษกะโหลกศีรษะ และเศษมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นเป็นระยะทางยาวประมาณกว่า 10 เมตร ห่างจากร่างของผู้เสียชีวิตย้อนกลับไปก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร พบขวดสุราขาวขนาดเล็กตกอยู่ในกอหญ้า 1 ขวด

สอบถาม นางสมสมัย ดิษฐวัฒน์ อายุ 45 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ปกตินั้นนายสมชาย มีอาชีพเลี้ยงปลาอยู่ที่บ้าน และคอยเฝ้าบ้านเลี้ยงหลาน คือ บุตรชายของตนวัย 3 ขวบ โดยจะนอนดูโทรทัศน์อยู่แต่ในบ้านเป็นประจำ ส่วนตนและน้องชายจะออกไปทำงานยังนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งย่าน อ.บางปะกง (เวลโกรว์) ก่อนที่จะมีคนมาแจ้งบอกว่านายสมชายเสียชีวิตแล้วหลังจากกลับถึงบ้าน

ซึ่งยังไม่ทราบว่าผู้เป็นบิดานั้นถูกรถไฟชนด้วยสาเหตุใด เพราะครอบครัวของตนนั้นมีบ้านพักอาศัยติดกับรางรถไฟมานานถึงกว่า 40 ปีแล้ว นางสมสมัย กล่าว

ขณะเดียวกันมีชาวบ้านที่มามุงดูยังในที่เกิดเหตุหลายคนต่างระบุว่า ปกตินายสมชาย มักจะชอบดื่มสุราและเดินไปมาอยู่บนรางรถไฟ และในบางครั้งยังใช้รางรถไฟเป็นหมอนหนุนนอนโดยใช้ศีรษะพาดไว้บนรางและนอนหลับไปบ่อยครั้ง และในครั้งนี้นายสมชายอาจขึ้นมานอนหนุนรางรถไฟอีกจนมาถูกขบวนรถไฟสินค้าบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ทับเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า หลังทำการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุแล้ว จะได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งยังที่ รพ.พุทธโสธร ส่วนสาเหตุนั้นยังต้องรอสอบปากคำ นายอุดม จำปาแสน พขร. ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่ 846 ที่เฉี่ยวชนผู้เสียชีวิตก่อนว่าเห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.ประเสริฐ กล่าว