เตรียมฟ้องศาลปกครองกรณีไฟเขียวใช้ 3 สารพิษต่อไป

เตรียมฟ้องศาลปกครองกรณีไฟเขียวใช้ 3 สารพิษต่อไป

ภาคประชาชนเตรียมฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย กรณีอนุญาตใช้ 3 สารพิษต่อได้แม้จำกัดการใช้

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิชีววิถี กล่าวว่า ขณะนี้ภาคประชาชนอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติให้มีการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ได้แก่พาราควอต ไกรโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสต่อไป โดยการจำกัดการใช้ เมื่อปลายเดือน พ.ค.2561 คิดว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีที่จะดำเนินการเคลื่อนไหวตามแผนที่เคยวางไว้ และกระตุ้นรัฐบาลให้ทบทวนมติแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดให้เร็วขึ้น ซึ่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ที่มี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ใกล้ครบเวลาตามกรอบการพิจารณาที่มีการขอยืดออกไป 60 วันแล้ว มีความกล้าที่จะยกเลิกให้มากกว่านี้

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เจียไต๋ ประกาศเลิกนำเข้าและจำหน่ายสารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกรโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสภายในปี 2561 ว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะที่ผ่านมาสารเคมีเหล่านี้ได้สร้างการเจ็บป่วยให้แก่ประชาชนในวงกว้าง ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณ ภาคประชาสังคม นักวิชาการทุกกลุ่มที่ได้มีการเคลื่อนไหว เผยแพร่ข้อมูลอันตรายต่างๆเพื่อกดดันจนทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมเช่นนี้ ซึ่งเชื่อว่าการเริ่มต้นของเจียไต๋จะทำให้บริษัทค้าสารค้ามียักษ์ใหญ่เจ้าอื่นๆจำเป็นต้องแสดงเช่นกัน

“บริษัทเจียไต๋ยังได้พูดถึงประเด็น มีนโยบายการดําเนินธุรกิจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตและสร้างความยั่งยืนเคียงคู่ไปกับทุกภาคส่วนของสังคม แต่กลับอยู่ในกลุ่มที่ได้คัดค้านและต้องการให้ยุติ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนฉบับ ที่ผ่านมติ เห็นชอบจากครม.ไปแล้ว เพื่อแสดงความจริงใจขอให้ยุติบทบาทในการคัดค้าน พรบ.ฉบับดังกล่าวด้วย การที่เจียไต๋ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ในการนำเข้าสารเคมีเหล่านี้ได้สมัครใจในการยกเลิกการนำเข้าก่อนที่จะมีการมติตัดสินให้ยกเลิกจากรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าภาคประชาชนได้เดินมาถูกทางแล้ว และรัฐบาล จะต้องคุ้มครองประชาชนโดยการทบทวนที่ปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน"นายวิฑูรย์กล่าว

แหล่งข่าวจากนักวิชาการที่ทำงานต่อสู้เรื่องสารเคมีได้ ให้ข้อสังเกตว่าเป็นสิ่งที่ยังวางใจไม่ได้ว่ามูลค่าการนำเข้าจะลดลง หลังจากที่เจียไต๋ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ยอมยกเลิกการนำเข้าเช่นนี้ ต้องดูท่าทีว่ามูลค่าการนำเข้าในประเทศจะเพิ่มขึ้น ลดลง หรือเท่าเดิมหรือไม่ อย่างไร และหลังจากนี้จะมีบริษัทอื่นทยอยยกเลิกไปด้วย หรือจะมีบริษัทพันธมิตรนำเข้าแทน หรือว่ามีบริษัทนำเข้าสารเคมีใหม่ๆเกิดขึ้นมาแทนที่หรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลควรถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดในทันที