เครือข่ายฯ กัญชา ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐ 4 ข้อ

เครือข่ายฯ กัญชา ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐ 4 ข้อ

เครือข่ายประชาสังคมกัญชาฯ ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง4 ข้อ รัฐต้องไฟเขียวผู้ป่วยปลูกกัญชาใช้รักษาโรคตนเองได้ ตำรับยาแผนไทยเข้ากัญชาต้องใช้ได้ ขณะที่ม.รังสิตเตรียมเป็นตัวแทนดำเนินการตามกฎหมายกรณีไทยรับคำร้องจดสิทธิบัตรกัญชา

เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สาหรับประชาชน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยรังสิต สภาการแพทย์แผนไทย มูลนิธิชีววิถี (Biothai) กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ภาคประชาชน (FTA Watch) มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิสุขภาพไทย นักวิชาการด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการเข้าถึงยา อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตข้าราชการ ทหาร นักวิชาการ และประชาชนผู้สนับสนุนให้นากัญชามาใช้ในทางการแพทย์ ได้มีการประชุมหารือร่วมกันแล้ว มีผลการประชุมสรุปออกมาเป็นข้อเรียกร้องและขอแถลงการณ์ต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนี้ 1.ต้องไม่ให้มีการผูกขาดการใช้ประโยชน์จากกัญชาไว้เฉพาะทางราชการ หรือต่างชาติ หรือเอกชนรายใดรายหนึ่งโดยเด็ดขาด เครือข่ายฯจึงขอคัดค้านและประณามร่างแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชา ซึ่งมีแนวคิดและเป้าหมายเพื่อที่จะผูกขาดการครอบครองและจาหน่ายกัญชาเอาไว้แก่หน่วยงานภาครัฐอย่างเดียว เพราะเป็นแนวทางที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ป่วยและประชาชน และยังเปิดช่องทาให้เกิดการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง

และคัดค้านขบวนการวางแผนผูกขาดโดยภาครัฐเพื่อเป็นบันไดต่อยอดที่จะเกิดการผูกขาดโดยต่างชาติ หรือเอกชนรายใดรายหนึ่งในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดาเนินการให้ผู้ป่วยสามารถเพาะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์สาหรับตัวเองได้ ให้ประชาชนและเอกชนสามารถขออนุญาตในการเพาะปลูกเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เป็นการทั่วไปได้ ผลิตและแปรรูปได้ และส่งออกเพื่อจาหน่ายในต่างประเทศได้

2.ยกเลิกคาขอการจดสิทธิบัตรกัญชาทุกฉบับโดยทันที ขอให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการยกเลิกคำขอการจดสิทธิบัตรสารสกัดและการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคทั้งหมดโดยทันที และพิจารณาคำขอสิทธิบัตรตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมหาวิทยาลัยรังสิตจะรับหน้าที่ในการดาเนินการทางกฎหมายทุกกระบวนการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป 3.หยุดสร้างอุปสรรคขัดขวางการสร้างนวัตกรรมและการวิจัย ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจเห็นแก่ประโยชน์ของชาติด้วยการกำหนดนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนสามารถวิจัยกัญชาในทางการแพทย์ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องสร้างขั้นตอนให้กลายมาเป็นอุปสรรคในงานวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยในมนุษย์ของทุกมหาวิทยาลัยนั้นมีขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมในวิจัยอยู่แล้ว จึงควรสนับสนุนให้มีการวิจัยในมนุษย์ให้ได้โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจขยายข้อบ่งชี้ในการใช้กัญชาในทางการแพทย์ให้มากขึ้นและให้นามาใช้ได้โดยทันทีด้วยดุลพินิจของแพทย์ โดยไม่ต้องวิจัยซ้าซ้อนจากที่มีการวิจัยไปแล้วในต่างประเทศ แม้แต่ตารับยาการแพทย์แผนไทยที่มีการเข้ากัญชาซึ่งเคยมีการใช้ในมนุษย์มาแล้วหลายร้อยปีต้องสามารถนากลับมาใช้ได้โดยทันที

และ4.ปลดล็อกการใช้กัญชาให้แพทย์แผนไทย ขอเรียกร้องให้แพทย์แผนไทยสามารถใช้กัญชาตามตารับยาแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สาหรับประชาชนได้เล็งเห็นความสาคัญของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยซึ่งมีมานานหลายร้อยปี ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันสนับสนุนเรียกร้องให้รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติแสดงความจริงใจดาเนินการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้กัญชาสามารถนามาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด ทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยทุกคนที่เฝ้ารอคอยความหวังอยู่เป็นจานวนมาก และช่วยกันปกป้องภูมิปัญญาการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่พระราชทานจากบูรพมหากษัตริย์ไทยเพื่อประโยชน์ของราษฎรทุกคน