รองผบ.ตร. แถลงคืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์-โรแมนซ์สแกม

รองผบ.ตร. แถลงคืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์-โรแมนซ์สแกม

รองผบ.ตร. แถลงคืนเงินให้เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์-โรแมนซ์สแกม

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พ.ย.61 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และตัวแทนธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงผลการกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับคดีคอลเซ็นเตอร์ ครั้งที่ 24 และคดีโรแมนซ์สแกม หรือ แสร้งรักออนไลน์ ครั้งที่ 7 พร้อมกับคืนเงินให้กับผู้เสียหาย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการปฏิบัติงาน สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ แก๊งโรแมนซ์สแกม โดยอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้าย ไม่ให้สามารถถอนออกจากบัญชีได้ ก่อนจะนำเงินคืนให้ผู้เสียหาย 2 ราย คือ 1. ผู้เสียหายจากคดีคอลเซ็นเตอร์ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สภ.บางปู ซึ่งถูกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย จำนวน 400,165 บาท ทาง เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินช่วยผู้เสียหายไว้ได้ 190,000 บาท และ 2.ผู้เสียหายจากคดีแก๊งโรแมนซ์สแกม ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย 256,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้เต็มจำนวน รวมเป็นเงินจำนวน 446,000 บาท

ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกับธนาคาร ร่วมกันมอบเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย พร้อม เปิดเผยว่าขณะนี้ สำนักงาน ปปง., สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการบูรณาการ การทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ ตำรวจที่ได้มีการจับกุมคนร้ายทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายกลุ่ม แต่มิจฉาชีพ ก็ยังพยายามหลบหนีโดยใช้การหลอกลวงที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้รับฟังการประชาสัมพันธ์ จากหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ทั้งนี้กรณีพบว่าถูกหลอกลวง ให้รีบโทรแจ้งที่สายด่วนของ สำนักงานปปง. เบอร์ 1710 ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

ขณะที่ภาพรวม ผลการจับกุมในช่วงเวลาตั้งแต่ วันที่ 10 - 16 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหา คดีโรแมนซ์สแกม ได้ 20 ราย คดีคอลเซ็นเตอร์ 4 ราย รวม 24 ราย จากจำนวนหมายจับทั้งหมด 29 ราย พบผู้ต้องหาทั้งหมด เป็นชาวไทย