ลุ้นรีบาวด์

ลุ้นรีบาวด์

SET Index วานนี้ปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและกนง.ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องคอยกดดันดัชนี โดยกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดวานนี้ได้แก่ BJC CPALL AOT ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,638.83 จุด (-13.47 จุด) Volume 4.4 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -1,346.39 ลบ. TFEX Net -14,168 สัญญาตราสารหนี้ +3,863 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 208.77 จุด รับความหวังสหรัฐ-จีนเจรจายุติข้อพิพาทการค้า

+น้ำมัน WTI ปิดบวกแม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากการที่โอเปกส่งสัญญาณปรับลดการผลิต

+สหรัฐเผยยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. สูงกว่าคาดการณ์

+แหล่งข่าวเผยจีนได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของสหรัฐในการปฏิรูปการค้าแล้ว

+"กอบศักดิ์" เตรียมเสนอโครงการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) เข้า ครม.ภายในต้นธ.ค.นี้

+"สมคิด" ไม่อยากให้ยกเลิก LTF สั่งคลังพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมให้พิจารณากองทุนใหม่ของ FETCO เป็นกรณีพิเศษ (ที่มา ทันหุ้น)

-จำนวนผู้ขอสวัสดิการสหรัฐเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 ราย

-วุฒิสมาชิกเดโมแครตออกโรงเตือนสหรัฐอาจถูกชัตดาวน์หาก"ทรัมป์"ก้าวก่ายการเจรจา

-นายกฯอังกฤษยืนยันไม่ลาออก พร้อมผลักดันข้อตกลง Brexit แม้รัฐมนตรีไขก๊อก

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.79 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.93 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์จากตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวก ราคาน้ำมันบวกต่อ แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากทิ Fund flow ไหลออกและความกังวล FED และกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย   คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,628 -1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- ครม.ออกมาตรกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม AOT CENTEL ERW

- หุ้นแนะนำประจำเดือน พ.ย. AUCT XO SPALI KKP

-Low Beta High Dividend ANAN PSH QH ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.93 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- MSCI ประกาศปรับการคำนวณดัชนีรอบกลางปี

    Global Standard หุ้นเข้า : GULF MTC หุ้นออก :ไม่มี

    Small Cap หุ้นเข้า : CBG MBK PRINC หุ้นออก : CCET DDD ICHI MONO VNG

หุ้นแนะนำพิเศษ

AUCT – Analyst Meeting ราคาปิด 6.35 บาท ราคาเหมาะสม 8.25 บาท (เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก)

  • กำไร 3Q61 เท่ากับ 49.86 ลบ. (+51.6%YoY +77.1%QoQ) ตามยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ 3Q61 +22.2%YoY อีกทั้งการเกิด Economies of Scale ของธุรกิจ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 52.9% จาก 2Q61 อยู่ที่ระดับ 46.3% ทั้งนี้ การเติบโตหลักมาจากรายได้จากการประมูลรถยนต์และรถเกษตรกร (คิดเป็นสัดส่วน 76% ของรายได้รวม) +26.9%YoY +22.4%QoQ ส่งผลให้กำไร 9M61 เท่ากับ 119.54 ลบ. (+54.3%YoY)
  • Update : วันที่ 30 พ.ย. จะมีการเปิดตัว Application บนโทรศัพท์มือถือ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง Demand ฝั่งผู้ประมูลรายย่อย ซึ่งภายในโปรแกรมจะมีการแสดง ราคารถปิดการประมูลรายวัน(จากการเก็บข้อมูล Big Data) และการ Liveสด ณ ลานประมูล อีกทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรกับ “เบนซ์ทองหล่อ” และ “TOYOTA BUZZ” เพื่อส่งรถเข้าร่วมประมูล

     • คาด 4Q61 เติบโต YoY แต่อาจหดตัว QoQ : ตามอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ ประกอบกับการเร่งนำรถเก่ามาขายให้ทันก่อนสิ้นปี (ก่อนที่รถจะตกรุ่น) นอกจากนี้จำนวนสต็อกรถยนต์ล้นลานประมูล (ถือเป็นสัญญาณที่ดี) และไม่มีความกังวลว่าจะเกิด Supply ส่วนเกิน เนื่องจากผู้ประมูลส่วนใหญ่เป็นเต้นรถมือสอง ซึ่งมีการแข่งขันการประมูลรถกันค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม อาจหดตัว QoQ เนื่องจาก 3Q61 กำไรเติบโตค่อนข้างสูง เราคาดการกำไรทั้งปี 61(เดิม) ราว 128.7 ลบ. +23%YoY (คิดเป็น 92.9% ของคาดกำไรทั้งปี) เตรียมปรับประมาณการเชิงบวก

หุ้นมีข่าว   

CPALL (ราคาปิด 68.50  ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 81.52)

·         รายงานกำไรสุทธิ 3Q61 ที่ 5,182 ลบ. +4%YoY สอดคล้องไปกับรายได้รวมที่เติบโตราว 6%YoY สู่ 130,522 ลบ. โดยบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงระดับเดิมที่ 22% และ 4% ตามลำดับ อีกทั้งมีภาระดอกเบี้ยลดลงจากการชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน โดยกำไรสุทธิงวด 9M61 ที่ 15,378 ลบ.คิดเป็น 73% ของคาดการณ์กำไรสุทธิ Bloomberg Consensus ที่ 20,990 ลบ.

·         ผบห.ยังคงเป้าการเปิดสาขาที่ 13,000 สาขาภายในปี 64 โดยมีสาขาที่เปิดใหม่ใน 3Q61 จำนวน 142 สาขา ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 10,902 สาขา และมีแผนเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายต่อบิลไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มสัดส่วนยอดขายของสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น อาทิ อาหาร และการเพิ่มจำนวนสาขาของร้าน All Cafe เป็นต้น และล่าสุดมีการเปิดตัวบริการ SPEED-D ที่ให้บริการรับส่งสินค้า ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์ของ E-Commerce ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามต้องคอยติดตามความคืบหน้าของธุรกิจเนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เรายังคงชื่นชอบ CPALL เนื่องจากสามารถสร้างการเติบโตได้ดีในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมได้อย่างน่าสนใจ

TRC Analyst Meeting ราคาปิด 0.54 บาท มุมมอง “Neutral” Bloomberg Consensus 0.68 บาท

·       รายงานกำไร 3Q61 เท่ากับ 41.13 ลบ. +98.21%YoY ทั้งนี้ เป็นการพลิกกลับมามีกำไรจาก 2Q61 ที่ขาดทุน 45.54 ลบ. (%GPM เท่ากับ 20.91% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2Q61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 9.52%) เนื่องจากมีรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจนเลยจุดคุ้มทุน จากโครงการ 1st Transmission Pipeline Life Extension Project 28” Recoating Section  โครงการ BV4.19 PIG Launcher and Receiver Installation และ โครงการปรับปรุงถนนประชาร่วมใจ-ถนนมิตรไมตรี อย่างไรก็ตามกำไร 9M61 อยู่ที่ 6.63 ลบ. -87%YoY

·      ผบห. ตั้งเป้ารายได้ปี 61 ราว 2.5-2.8 พันลบ. ขณะที่ Backlog ณ สิ้นงวด 3Q61 เท่ากับ 5,614 ลบ. และเตรียมประมูลงานใหม่เพิ่มใน 4Q61 มูลค่ารวมราว 1 หมื่นลบ. ได้แก่ 1) โครงการนำสายไฟลงใต้ดิน 3 โครงการ มูลค่างานรวมราว 5.5 พันลบ. 2) โครงการโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 มูลค่าราว 5 พันลบ. 3) โครงการก่อสร้างอาคาร มูลค่าราว 800 ลบ. และ 4) งานโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติขนาดเล็ก 3 โครงการ มูลค่าราว 45 ลบ. ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 81 ลบ. -12.71%YoY มุมมอง “Neutral”

SC Analyst Meeting (ราคาปิด 3.26 Bloomberg Consensus 4.23)

·         งวด 3Q61 มีกำไรสุทธิ 392 ลบ. +8%YoY -12%QoQ 9M61 กำไรสุทธิ 1,096 ลบ. +56%YoY โดยมีรายได้รวม 10,350 ลบ. +32% อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 35% จาก 37% ในงวด 9M60 เนื่องจากจากอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ค่าเช่าลดเหลือ 61% จาก 64%

·         กำไรในช่วง 4Q61 มีแนวโน้มเติบโต QoQ โดยมี backlog ที่จะโอนภายในปีนี้ราว 5.3 พันลบ. จากโอนคอนโดฯที่สร้างเสร็จ 2 โครงการได้แก่ ศาลาแดงวัน และ BEATNIQ (จัด big event ในเดือนพ.ย.)และเปิดขายใหม่แนวราบ 5 โครงการมูลค่า 5.5 พันลบ. Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 1.9 พันลบ. เติบโต 51% พลิกจากหดตัว 36% ในปี 60  IAA Consensus คาด Yield เฉลี่ย 5.5% แนะนำ ถือรับเงินปันผล

·         + BANPU ประเมินราคาถ่านหิน 2562 แข็งแกร่งในระดับสูง วางกรอบ 98-108 ดอลลาร์ต่อตัน หลังความต้องการใช้โตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณขายถ่านหินเป็น 46-47 ล้านตัน จากปีนี้ 45 ล้านตัน เล็งซื้อเหมืองถ่านหินเพิ่มปลายปีถึงปีหน้า ชี้ทุกธุรกิจแนวโน้มเติบโตดี ส่วนรายได้ปีนี้โตตามเป้า 20% (ที่มาทันหุ้น)

·         - ERW หั่นเป้ารายได้ปี 61 เหลือโต 5-6% จากเดิม 10% รับผลกระทบนทท.จีนลดลง, วางงบปี 62 ราว 3 พันลบ.ขยายโรงแรม

·         CPF เดินหน้าดันยอดขายทะลุ 6 แสนลบ.ใน 5 ปี รับแรงหนุนรุกธุรกิจตปท.เผยผลงาน 9 เดือนปี 61 กำไรโต 7% (ที่มา : IQ)

·         KTC ตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 62 โตกว่า 10% ตามพอร์ตสินเชื่อ จากปีนี้คาดกำไรทะลุ 5 พันลบ.-เร่งใช้จ่ายผ่านบัตรท้ายปี(ที่มา : IQ)