ให้กำลังใจนร.จิตอาสา เผยเบื้องหลังชีวิตสุดรันทด

ให้กำลังใจนร.จิตอาสา เผยเบื้องหลังชีวิตสุดรันทด

ยกย่อง "นักเรียนจิตอาสา" เผยเบื้องหลังชีวิตสุดรันทดยิ่งกว่าละคร หาเงินเรียนช่วยทั้งบ้าน

หลังจากมีการแชร์คลิปวีดีโอเด็กอาชีวะและนักเรียนลูกเสือวิ่งไปช่วยเข็นรถที่จอดเสียบริเวณแยกไฟแดง ในเขต อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง จนมีคนชื่นชมมากในโซเชียลที่สำคัญเด็กอาชีวะที่เห็นเป็นผู้หญิงด้วย หลังจากมีการเผยแพร่ออกไปหลายหน่วยงานก็ออกตามหาเด็กทั้ง 3 คน โดยเฉพาะเด็กสาวอาชีวะ

ล่าสุดก็สามารถตามหาเด็กทั้ง 3 คนพบ คือนายธรรมธัช ศิริจันทร์ อายุ 15 ปี และด.ช.ภานุวัฒน์ กระจ่างจิต อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนวัดเซิงหวายประชาอุทิศ และนางสาวซุรอญา ม่วงสีตอง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นปวช.3 แผนกช่างเชื่อมวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง

และเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันนี้ 15 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางยังร้านเต็มอิ่มหมูกะทะ บริเวณทางขึ้นสะพานเลี่ยงเมืองอ่างทอง หลังทราบว่านางสาวซุรอญา หรือน้องญา มาทำงานหารายได้เสริม พอไปถึงก็พบนางสาวซุรอญา หรือน้องญา กำลังทำงานต้อนรับแขกที่มาทานหมูกะทะ และจัดเตรียมข้าวของอย่างขยันขันแข็ง

น้องญา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชสถิตย์ชั้น ม.6 ในวันจันทร์กับวันอังคารส่วนวันพุธถึงวันศุกร์จะเรียนที่แผนกช่างเชื่อมที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง เนื่องจากตนเรียนในระบบทวิศึกษา ตอนนี้ฝึกงานอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่ตนไปช่วยรถเสียนั้น ก็เริ่มจากตนเลิกจากฝึกงานขับรถผ่านมา โดยมุ่งหน้าจะไปเติมน้ำมันแล้วจู่ ๆ ก็หันไปเห็นมีรถจอดเสียอยู่กลางแยก ซึ่งทำให้รถติดเป็นแถวยาว ตนเลยตัดสินใลงจากรถเพื่อจะวิ่งไปช่วยเข็นรถที่เสียคันดังกล่าว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เห็นว่ามีน้องนักเรียนลูกเสืออยู่ใกล้ ๆ อีก 2 คน จึงตะโกนบอกให้ไปช่วยกันเข็นรถคันดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขา จากนั้นตนก็ไปรีบวิ่งไปเข็นและพอเข็นเสร็จก็รีบวิ่งกลับมา เพราะกลัวว่ารถจักรยานยนต์ที่ตนขี่ไปจะหาย ตนไม่ได้คิดอะไรมากเลย มารู้อีกทีก็มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วไปลงเชียล จนเพื่อน ๆ ของตนเห็น ก็มาเล่าให้ฟัง ตนไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นจะมีคนมาชมมากมายแบบนี้ เหตุที่ตนไปช่วยเพราะจิตสำนึกมากกว่า คิดถึงว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเรา แล้วไม่มีคนช่วย เราจะทำอย่างไร

น้องญา เล่าชีวิตตัวเองให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ชีวิตตนลำบากมากหลังจากเลิกฝึกงานเลิกเรียนก็จะมาทำงานพิเศษที่ร้านหมูกะทะแห่งนี้เพราะตนต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียน ส่งน้องเรียน ช่วยเหลือทางบ้าน ตนอยู่บ้านกับตา ยาย และน้อง พ่อตนเสียชีวิตไปแล้วแม่ก็ติดคุกทุกวันนี้ท้อนะแต่ต้องอดทน เห็นคนอื่นเขามีเงินใช้มีเงินเที่ยวแต่ตนไม่มีตนต้องทำงานตนอยากเรียนหนังสือตนจะทำงานหาเงินเรียนให้จบมันต้องทำเพราะยาย ตา ก็ไม่มี ตนทำงานมาตั้งแต่ ม.4 แล้ว ทำทุกอย่างก่อสร้าง รับจ้างลงของทำทุกอย่างที่ได้เงินขนาด ตนเป็นอิสลามแต่มาทำร้านหมูกะทะตนไม่คิดอะไรถ้าไม่ทำก็อด ก็ไม่ได้เรียน น้องอีกละ ตายายอีกละ บางวันตนเหนื่อยทำงานหนักจนไปเรียนไม่ได้ ตอนนี้ตนเป็นห่วงน้องและตาที่เป็นอัมพฤกษ์มากชีวิตตนลำบากไม่มีใครรู้หลอกแต่ตนจะสู้สู้ไปทั้งน้ำตานี่แหละ

ด้านนางสายทิพย์ ศรีบุบผา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านหมูกะทะ กล่าวว่า น้องญาเป็นเด็กที่น่ารักมีความกตัญญูมากขยัน ก่อนหน้านี้มาทำกับตนแล้วหยุดไปพักหนึ่งและมาทำใหม่ เป็นเด็กที่ชอบช่วยเหลือคนมีจิตใจดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของเด็กนักเรียนที่แต่งชุดลูกเสือทั้งสองคนนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (15 พ.ย. 61) นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองอ่างทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง ได้เข้าไปพบที่โรงเรียนวัดเซิงหวายประชาอุทิศ ในเขต ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง เพื่อมอบประกาศเกียรติคุณ แก่เด็กทั้งสองคน คือ นายธรรมธัช ศิริจันทร์ อายุ 15 ปี และ ด.ช.ภานุวัฒน์ กระจ่างจิต อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนดังกล่าว หลังจากที่ได้มีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่นิ่งดูดาย ส่วนน้องญานั้น คาดว่าน่าจะไปมอบวันหลัง