ดาวโจนส์ปิดบวกรับข่าวสงครามการค้าชะลอ

ดาวโจนส์ปิดบวกรับข่าวสงครามการค้าชะลอ

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 46,000 ราย สู่ระดับ 1.68 ล้านราย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (15พ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางการคาดหวังของนักลงทุนในตลาดว่าสหรัฐและจีนจะผ่าทางตันกรณีพิพาททางการค้าระหว่างกันได้ หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันอาจจะตัดสินใจระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในรอบต่อไป

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 208.77 จุดหรือ 0.83% ปิดที่ 25,289.27 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 28.62  จุดหรือ 1.06% ปิดที่ 2,730.2 จุด  และดัชนีแนสแด็กบวก 122.64  จุดหรือ 1.72% ปิดที่ 7,259.03 จุด

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐว่า จีน ได้ส่งหนังสือตอบกลับข้อเรียกร้องของสหรัฐก่อนหน้านี้ ที่ต้องการให้จีนทำการปฏิรูปนโยบายการค้า ซึ่งเป็นการดำเนินการที่จะช่วยให้สหรัฐและจีน เปิดฉากการเจรจาการค้าครั้งใหม่ และยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน

แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือตอบกลับจากจีนดังกล่าว และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า คำตอบของจีนจะสร้างความพึงพอใจต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่

มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันนอกรอบการประชุมจี20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. เพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า  ซึ่งสหรัฐ ระบุก่อนหน้านี้ว่า การเจรจาการค้าจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจีนจะยื่นข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมในการปฏิรูปนโยบายการค้า

ด้านนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า จีนจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับสหรัฐ

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,500 ราย สู่ระดับ 215,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว