กกต.คืนสิทธิ์ 3 องค์กรให้มีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัครส.ว. สหกรณ์ชวด มติกกต.ยันชัดเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต กล่าวว่าในการประชุมกกต. เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา กกต.มีมติให้ประกาศ รายชื่อองค์กรที่มีสิทธิ์แนะนำชื่อบุคคล เพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เพิ่มเติม อีก 3 องค์กร จากที่ยื่นคัดค้านมารวม 10 องค์กร คือ สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเคมีแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานสยามยีเอสแบตเตอรี่ จ.สมุทรปราการ และ มหาจุฬามณีเจดีย์ศรีสุวรรณภูมิ จ.ปทุมธานี หลังจากที่พิจารณาคำร้องคัดค้านของทั้ง 3 องค์กรแล้วเห็นว่า ทั้ง 3 องค์กรเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยและยื่นลงทะเบียนในกำหนดเวลา ซึ่งหลังจากนี้ประธานกกต. ก็จะลงนามประกาศรายชื่อเพิ่มเติมให้ทั้ง 3 องค์กรเป็นองค์กรที่มีสิทธิ์แนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ว. และจะแจ้งหนังสือให้สำนักงานกกต.จังหวัดทราบ ทำให้ในการเลือกส.วครั้งนี้ องค์กรที่มีสิทธิ์เสนอชื่อบุคคลเพื่อ สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ว.รวม 439องค์กร
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของสหกรณ์ ที่กกต. ไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อจำนวน 23 องค์กรนั้น มีการยื่นคัดค้านกลับมาเพียง 3 องค์กร ซึ่ง กกต. มีมติไม่คืนสิทธิ์ให้ เนื่องจากเห็นว่า การจะพิจารณาว่าเป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไรหรือไม่จะต้องพิจารณาวัตถุประสงค์และรายงานผลการดำเนินการ ซึ่งพบว่า ทั้ง 3 องค์กรที่ยื่นคัดค้านมา ตามรายงานผลการเนินการมีการแสวงหาผลกำไรนำมาแบ่งปันกัน โดยพฤติการณ์จึงเข้าข่ายเป็นองค์ที่แสวงหาผลกำไรมาแบ่งปันกัน เข้าลักษณะองค์กรที่ขาดคุณสมบัติในการแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครเป็นส.ว. หากสหกรณ์จะไปยื่นฟ้องต่อศาลก็เห็นว่า เคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกาว่าสหกรณ์มีการแสวงหาผลกำไร