'บิ๊กโจ๊ก' ลุยตรวจหาดฟรีดอม ภูเก็ต หลังนทท.ร้องถูกเรียกเก็บค่าผ่านทาง

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2561) พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยพล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3, พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผบก.ตม.6 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพรนำโดย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นำชุดปฏิบัติการ พร้อมสื่อมวลชนลงพื้นที่หาดฟรีดอม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต หลังได้รับข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางไปยังชายหาด คนละ 200 บาท

จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่ามีการเรียกเก็บค่าตั๋วผ่านทางจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยพบคนงาน 2 คน เป็นชาย 1 คน ทราบชื่อ คือนายเมธา สุขวิมุติ และหญิง 1 คน ทราบชื่อ คือ นางสาวธิติวรรณ ศรีทะ ทำหน้าที่เป็นคนเก็บเงิน โดยนางสาวธิติวรรณฯ กล่าวยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ทำหน้าที่เก็บเงินค่าผ่านทางจริง โดยจะเก็บหัวละ 200 บาท และจะเก็บเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น ซึ่งแต่ละวันเก็บเงินได้มากกว่า 10,000 บาท ส่วนเงินที่ได้จะนำไปแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงเพื่อนคนงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ โดยไม่ทราบเรื่องของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน รู้แต่เพียงเป็นที่ดินของนายหัว (ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงชื่อเจ้าของที่ดิน) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีกับชาย – หญิงคนเก็บตั๋วดังกล่าว ในข้อหา บุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ยึดถือครอง หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ทางคณะยังได้เดินทางลงพื้นที่หน้าหาดฟรีดอมด้วย ซึ่งพบว่าเป้นชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวมานนอนพักผ่อนอาบแดดเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังพบกับหญิงคนหนึ่งที่คนละแวกนั้นเรียกว่า เจ๊สาว ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้ดูแลพื้นที่บริเวณริมชายหาดฟรีดอม และอ้างว่าพ่อตนเองทำมาหากินโดยการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ บริเวณนี้มา 50 ปี และเมื่อนักท่องเที่ยวชายต่างชาติมาพบ เห็นมีความสวยงามและเงียบสงบจึงมาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ โดยพ่อได้อนุญาตให้เข้ามาทำร้านอาหารเพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบริเวณนี้ พร้อมยืนยันว่ามีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งจะนำมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบต่อไป

สำหรับหาดฟรีดอม ตั้งอยู่ในตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต มีเนื้อที่ประมาณ 65 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ที่ทางกรมที่ดินได้เพิกถอนเอกสารสิทธิไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ยังมีผู้อ้างกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินเรียกเก็บผลประโยชน์ รวมถือยังมีสิ่งปลูกสร้างบางส่วนที่ก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าตรวจสอบพื้นที่หลายครั้ง แต่ทางกลุ่มผู้อ้างกรรมสิทธิ์มีการวางกำลังไว้ด้านหน้าเพื่อส่งสัญญาณเตือนทำให้ไม่พบผู้กระทำผิด

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า การอ้างกรรมสิทธิ์ บุกรุกที่ดินป่าสงวนในพื้นที่หาดฟรีดอมนั้น ขณะนี้มี 4 จุดใหญ่ ที่ต้องมีการตรวจสอบและเอาผิดหากพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจริง คือ จุดที่ 1 คือ จุดที่มีการเรียกเก็บค่าตั๋วผ่านทาง จุดที่ 2 และ 3 เป็นบริเวณชายหาดที่มีการวางเก้าอี้ รวมถึงมีการปลูกสร้างร้านอาหารล้ำลงมาบนชายหาด โดยจุดนี้มีผู้อ้างเอกสิทธิ์นำ ส.ป.ก. 4-01 มาอ้างกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดิน และจุดที่ 4 บริเวณถนนทางเข้า – ออก ที่มีการทำรั้ว และประตูเหล็กบนที่ดินสาธารณะประโยชน์

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ได้เน้นย้ำให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ รวมถึงสำนักงานการปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ร่วมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยสำนักงานการปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต รับปากว่าจะเร่งตรวจสอบเขตที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ หาดฟรีดอมเองเป็นหาดที่มีความสวยงาม เป็นสมบัติของชาติ ต้องไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าตั๋วผ่านทาง ต้องไม่มีนายทุนมาแอบเก็บผลประโยชน์บนที่ดินสาธารณะประโยชน์ คนไทยและนักท่องเที่ยวและทุกคนสามารถเดินทางเข้ามาชมธรรมชาติได้ และต้องช่วยกันรักษาดูแลรักษาธรรมชาติซึ่งเป็นสมบัติของชาติเอาไว้