นายกฯ หนุนหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ชี้อาเซียนและออสเตรเลียร่วมมือสร้างสรรค์ นำสู่ดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค
เวลา 08.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐสิงคโปร์) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย อย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาหารเช้า ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการซันเทค สิงคโปร์ โดยพลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตลอด 44 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียเป็นหุ้นส่วนที่เข้าใจและมีผลประโยชน์ร่วมกัน อาเซียนและออสเตรเลียต้องร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำสู่ดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ซึ่งจะเสริมสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่ง เพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของประชาชนทั้งสองฝ่าย โดยเสนอความร่วมมือในด้านต่างๆ ดังนี้
หนึ่ง ด้านความมั่นคง ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การเสริมสร้างระบบการบริหารจัดการชายแดนในอาเซียนและภูมิภาค การเป็นเจ้าภาพร่วมกับออสเตรเลียในการจัดประชุมเพื่อส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรของประเทศสมาชิกอาเซียนในการปฏิบัติตามอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก (ASEAN Convention Against Trafficking in Persons, Especially Women and Children: ACTIP) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปี 2562 และการสนับสนุนอาเซียนด้านระบบการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะคลังสิ่งของสำรองจ่ายเพื่อช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมของอาเซียน แห่งที่ 2 ซึ่งไทยมีแผนจะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2562
สอง ด้านเศรษฐกิจ การสนับสนุนให้ RCEP บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ MSMEs ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
ในการนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 ต่อจากสิงคโปร์ จะมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งหน้าสู่อนาคตด้วยความยั่งยืนในทุกมิติ
เวลา 09.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐสิงคโปร์) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 21 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการซันเทค สิงคโปร์ โดยพลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการรับรองวิสัยทัศน์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ค.ศ. 2030 เพื่อส่งเสริมหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับจีนที่เข้มแข็ง บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเสนอแนวทางการพัฒนา ดังนี้
ประการแรก ส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค สนับสนุนการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะระหว่าง MPAC 2025 BRI และ ACMECS Master Plan เพื่อปูทางไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก (EAEc) ในอนาคต และส่งเสริมการมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในเรื่องการเชื่อมโยงสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ในปีหน้าที่ประเทศไทย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังยินดีที่จีนในฐานะประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่ง และประเทศคู่ลงทุนอันดับสามของอาเซียน มีความสนใจในโครงการ EEC ตลอดจนข้อริเริ่ม 2+1 ซึ่งนำไปสู่การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนจีน-ญี่ปุ่น-ไทย ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ประการที่สอง เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื้อใจเชิงยุทธศาสตร์ อาเซียนกับจีนควรร่วมมือกันเสริมสร้างโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง ส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายในทะเลจีนใต้ เช่น การจัดทำ COC ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน การฝึกผสมทางทะเลอาเซียน-จีน และการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ประการที่สาม อาเซียนและจีนควรเสริมสร้างความร่วมมือด้านความยั่งยืนในมิติต่างๆ ซึ่งในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานอาเซียนในเรื่องนี้ จึงหวังว่า จีนจะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการดำเนินโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมร่วมกับศูนย์อาเซียนด้านต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งที่ประเทศไทย