'ประธาน กกต.' ย้ำไม่มีเหตุเลื่อนเลือกตั้ง

'ประธาน กกต.' ย้ำไม่มีเหตุเลื่อนเลือกตั้ง

"อิทธิพร" ยันไม่มีเหตุปัจจัยเลื่อนเลือกตั้งจากวันที่ 24 ก.พ.62 ส่วนเขตเลือกตั้งทั่วประเทศเคาะเสร็จแล้ว คาดประกาศเขตเลือกตั้งในราชกิจจาฯได้ในเร็ววันนี้ พร้อมพิจารณาประเด็นองค์กรระหว่างประเทศขอเข้าสังเกตการณ์เลือกตั้ง

อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี 14 พ.ย. 61 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งล่าช้าไปจากกรอบเวลาที่กำหนดไว้ จนกลายเป็นประเด็นว่าอาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขใดที่จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ต้องเลื่อนออกไป โดยกกต.เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งมาโดยตลอด ทั้งการเลือกสว.และเลือกตั้งส.ส. ซึ่งเตรียมการมาตั้งแต่กรรมการกกต.ชุดที่ผ่านมา ในส่วนของสำนักงานฯก็ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมาการทำงานเป็นไปตามกรอบปฏิทินที่วางไว้ อาจจะมีล่าช้าบางประเด็นจากเรื่องทางเทคนิค ซึ่งไม่นับเป็นอุปสรรค ยืนยันว่าขณะนี้กกต.มีมติเลือกแล้วว่าจะใช้เขตเลือกตั้งในรูปแบบใด โดยตรวจสอบอย่างรอบคอบในทุกจังหวัดว่าทำได้จริง เป็นการเลือกรูปแบบที่ดีที่สุดตามที่กกต.จังหวัดเสนอมา แต่ก่อนที่จะส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา กกต.ยังต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่ารูปแบบที่เลือกตรงกับรูปแบบที่จะจัดพิมพ์ ไม่คลาดเคลื่อน เนื่องจากเขตเลือกตั้งลดลงจาก 375 เหลือ 350 เขต ไม่เท่าเดิมและไม่เหมือนเดิม ยืนยันว่าไม่มีการพิจารณาเขตเลือกตั้งในรายจังหวัดใหม่ อย่างไรก็ตามหลังจากที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ทางกกต.จะต้องมีการนัดพูดคุยกับแม่น้ำ 4 สาย ตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 หลังจากหารือแล้วกกต.ก็จะไปหารือกับทางสำนักงานเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

สาเหตุที่ช้าเป็นเพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดตา โดยตาซ้ายมีอาการความดันตาสูง ส่วนตาขวาต้องผ่าตัดใส่เลนส์ตาใหม่เพื่อทดแทนเลนส์ตาเทียมเดิม อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะประกาศเขตเลือกตั้งได้ภายในเร็ววันนี้ โดยระหว่างนี้พรรคการเมืองก็สามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครส.ส.ไปได้พลางๆก่อน โดยไม่ต้องการประกาศเขตเลือกตั้งหรือการประชุมร่วมระหว่างกกต.กับพรรคการเมืองในวันที่ 22 พ.ย.นี้ นายอิทธิพรกล่าว

นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีอียูขอส่งผู้แทนเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งว่า ขณะนี้อียูยังไม่ได้แจ้งขอมายังกกต.อย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ได้พูดคุยหารือในประเด็นดังกล่าว โดยในส่วนของผู้สังเกตการณ์นั้นกกต.มีแนวปฏิบัติชัดเจนภายใต้โครงการ Visitor Program ซึ่งเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าสังเกตการณ์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากรัฐบาล เอ็นจีโอ หรือองค์กรระหว่างประเทศ โดยอียูเองก็เคยส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งไทยถึง 2 ครั้ง ส่วนเรื่องจำนวนผู้สังเกตการณ์แม้จะไม่ได้กำหนดไว้ แต่โดยปกติคือจำนวนที่เหมาะสม ไม่เยอะเกินไป ถ้ามากเกินไปก็จะกลายเป็นคำถามว่ามาทำไม โดยการพิจารณากกต.จะใช้บรรทัดฐานจากโครงการ Visitor Program ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2003 ทั้งนี้ในประเด็นดังกล่าวกกต.สามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องขออนุญาตคสช. เพียงแต่ขณะนี้กกต.ยังไม่ได้พิจารณาโดยคาดว่าสำนักงานจะนำเรื่องสังเกตการณ์การเลือกตั้งเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีบางคนไม่เห็นด้วยกับการเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศนั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นการกดดัน เชื่อว่าทุกฝ่ายก็เคารพความเห็นของกกต.เช่นกัน

เมื่อถามถึงการเชิญคณะทูตจากประเทศต่างๆ มาร่วมงานเลี้ยงรับรองในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) นายอิทธิพร กล่าวว่า รูปแบบงานจะเป็นการแนะนำตัวของกรรมการกกต.ทั้ง 5 คน ให้คณะทูตได้รู้จัก รวมทั้งเป็นการอธิบายถึงบทบาทหน้าที่ทั่วไป ซึ่งการติดต่อไปยังประชาคมโลกของกกต.นับจากนี้จะมีเป็นระยะๆ และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมตนตั้งใจจะจัดบรรยายสรุปเรื่องการเลือกตั้งให้กับคณะทูตได้รับฟังอีกครั้ง ส่วนเรื่องการเลือกตั้งจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ตนมองเป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถมีความเห็นต่างได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรมด้วย โดยการให้ข่าวหรือชี้แจงความคืบหน้ากับคณะทูตเป็นหน้าที่อีกด้านเพื่อเปิดโอกาสและช่องทางให้ได้สอบถาม