เมียนมากร้าวใส่องค์การนิรโทษกรรมสากล“ไม่ต้องการรางวัล”

ชื่อเสียงของ นางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลกึ่งพลเรือนเมียนมา ในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในสายตานานาชาติ ถดถอยไปมาก หลังจากสถาบันต่างๆที่เคยระดมให้รางวัล พากันตีตัวออกห่างจากผู้นำหญิง ที่ถูกมองว่าแทบไม่ได้ทำอะไรขณะชาวมุสลิมโรฮิงญาถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยน้ำมือกองกำลังความมั่นคงและม็อบชาวบ้าน

แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล เป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนล่าสุดที่ถอดรางวัลมโนธรรมสำนึก ที่เคยมอบให้เธอสมัยยังเป็นแกนนำฝ่ายค้านถูกกักอิสรภาพในปี 2552 หลังจาก แคนาดาถอดตำแหน่งพลเมืองกิตติมศักดิ์ เมื่อเดือนที่แล้ว และพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสหรัฐ เรียกคืนรางวัลที่ตั้งชื่อตามผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกัน “เอลี วีเซล” เมื่อมีนาคม

 แต่สำหรับในประเทศแล้ว นางอองซาน ซูจียังได้รับความนิยมทั่วประเทศ และภายในพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี ) ที่ชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2558

เมียว ยุนต์ โฆษกพรรคเอ็นแอลดี กล่าวว่า การถอดรางวัล ไม่เพียงทำลายศักดิ์ศรีของนางซูจี แต่ยังรวมถึงสมาชิกพรรคทุกคน และเขาคิดว่านี่คือส่วนหนึ่งของทฤษฎีคบคิด “องค์กรเหล่านี้ทำงานให้กับพวกเบงกาลี (โรฮิงญา) ที่พากันออกจากประเทศเพื่อให้ได้ความเป็นพลเมือง”

ด้าน อ่อง ลา ตุน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงข่าวสาร กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกเศร้าใจและผิดหวังกับแอมเนสตี นางซูจีได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม การทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ประชาชนรักเธอมากขึ้น

สำนักข่าวเอเอฟพี สัมภาษณ์ชาวเมียนมาในย่างกุ้ง เช่น คิน หม่อง เอ วัย 50 ปีที่เปรียบเทียบว่า การถอดรางวัลเป็นพฤติกรรมคนไม่รู้จักโต เหมือนเด็กๆที่ผิดใจกันก็เรียกของเล่นคืน ด้าน เทย์ เทย์ วัย 60 ปี กล่าวว่า เราไม่ต้องการรางวัลพวกนี้

นางซูจี ยังไม่แสดงความเห็นต่อการตัดสินใจของแอมเนสตี แต่ในอดีต เธอเลี่ยงตอบคำถามเรื่องการถูกถอดรางวัล