ฟิตบิทส่ง 'ฟิตบิท ชาร์จ3' ชิงแชร์แวร์เอเบิล

นายหลุยส์ ลายย์ ผู้จัดการประจำประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิตบิท กล่าวว่า ภาพรวมตลาดแวร์เอเบิลมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รับอานิสงส์การเติบโตของสมาร์ทวอทช์ เทรนด์รักสุขภาพ การออกกำลังกาย ทั้งพบด้วยว่าความต้องการฟิตเนสแทรคเกอร์เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

ปัจจุบัน ฟิตเนสแทรคเกอร์เป็นสินค้าที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในหลายๆ ตลาด เช่น ออสเตรเลีย 54% ของตลาดแวร์เอเบิล สหราชอาณาจักร 65% ญี่ปุ่น 60% สิงคโปร์ 53% และสเปน 60% จากการสำรวจผู้บริโภค 42% ต้องการซื้อฟิตเนสแทรคเกอร์ 36% สมาร์ทวอทช์ และ 22% ต้องการซื้อทั้งคู่ สำหรับไทยโอกาสทางการตลาดมีอยู่สูงมากเช่นกัน คาดว่าสัดส่วนจะมากกว่า 60% ของตลาดแวร์เอเบิล

"ไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญระดับภูมิภาค เทียบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากสิงคโปร์ ส่วนอันดับ 3 มาเลเซีย"

ล่าสุด เปิดตัวฟิตเนสแทรคเกอร์ตระกูลชาร์จ “ฟิตบิท ชาร์จ 3(Fitbit Charge 3)”  มาพร้อมดีไซน์ใหม่ บางลง ดูพรีเมียมมากขึ้น ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียมใช้เทคโนโลยีอากาศยานให้น้ำหนักเบา จอทัชสกรีนกระจกกอลิล่า กลาส3 ทนทานต่อรอยขีดข่วน อัดแน่นด้วยสมาร์ทฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย อายุการใช้งานแบตเตอรีที่ยาวนานถึง 7 วัน พร้อมกันนี้ รองรับระบบการชำระเงินด้วย “ฟิตบิท เพย์(Fitbit pay)” ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อ 10 ต.ค.2561 กับ 3 ธนาคารได้แก่กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์ และกรุงไทย ทั้งอยู่ระหว่างการเข้าไปพูดคุยกับสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อขยายการให้บริการ

สำหรับราคาและการวางจำหน่าย เริ่มต้นที่ 6,490 บาท ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายออฟไลน์และออนไลน์ โดยมีจำหน่ายทั้งแบบสีดำพร้อมกรอบอะลูมีเนียมกราไฟต์ หรือสีบลูเกรย์พร้อมกรอบอะลูมิเนียมสีชมพูโรสโกลด์ อุปกรณ์เสริมราคาระหว่าง 990-1,890 บาท และรุ่นพิเศษราคา 6,990 บาท ด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชั่นที่มีการปรับโฉมใหม่นี้เชื่อว่าชาร์จ 3 จะขายดีไม่แพ้รุ่นชาร์จ 2 แน่นอน

"ชาร์จ 3 น่าจะเป็นฟิตเนสแทรคเกอร์ตระกูลชาร์จที่ขายดีที่สุด จากยอดสั่งจองล่วงหน้าที่เข้ามาจำนวนมากบนช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ฟิตบิทดอทคอม ทั้งจากลูกค้าเก่าและใหม่ โดย 54% มาจากลูกค้าเก่าที่ยังคงเหนียวแน่นกับแบรนด์และเป็นเจ้าของแทรคเกอร์ฟิตบิทอย่างน้อย 2 เครื่อง"

อย่างไรก็ดี บริษัทไม่ได้โฟกัสด้านการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆ กลยุทธ์หลักมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล พร้อมทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรระดับท้องถิ่นเช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล และสถาบันการเงิน ฯลฯ 

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจุบันมีหน้าร้านในไทย 168 แห่ง รวมถึงบนออนไลน์กับลาซาด้าและช้อปปี้ ขณะนี้ยังมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ต่อเนื่องรวมถึงการเข้าไปทำตลาดองค์กร

ฟิตบิทครองอันดับ 1 ผลิตภัณฑ์แวร์เอเบิลระดับโลก ทำตลาดอยู่ใน 86 ประเทศ มีหน้าร้านกว่า 3.9 หมื่นแห่ง มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 25.4 ล้านราย ผู้ใช้งานฟิตบิทฟีดกว่า 56% เฉพาะซีรีส์ชาร์จตั้งแต่เปิดตัวจนวันนี้ทำยอดขายไปแล้วกว่า 35 ล้านชิ้น รวมทุกรุ่นทำยอดขายได้กว่า 84 ล้านชิ้น

นอกจากนี้ เป็นผู้เล่นที่มีฐานข้อมูลด้านการออกกำลังกายและการนอนหลับที่ใหญ่ที่สุด ด้วยข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจ 9 ล้านล้านนาที, การก้าว 157 ล้านล้านก้าว, การนอน 7.5 พันล้านคืน และการออกกำลังกาย 4.17 แสนล้านนาที