ดาวตก

ดาวตก

SET Index วานนี้ปรับตัวลดลง และปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง คาดว่า นลท.ส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจทิศทางเศรษฐกิจต่างประเทศ

และราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง แรงเทขายทำกำไรหลังจากที่บริษัทฯจดทะเบียนทยอยเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส3 ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,654.85 จุด (-13.67 จุด) Volume 2.9 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -917.24 ลบ. TFEX Net -10,997 สัญญาตราสารหนี้ -916 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+“มาร์ก โมเบียส” มองตลาดไทยค่อนข้างดี พร้อมชี้หุ้นในตลาดเกิดใหม่มีราคาถูกมากในขณะนี้และเป็นโอกาสในการซื้อ โดยเน้นกลุ่มค้าปลีก (ที่มาข่าวหุ้น)

-ดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุด เนื่องจากกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงตามราคาหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากซัพพลายเออร์ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ดิ่งลงจากคดีความที่มาเลเซีย

-น้ำมันดิบปิดลบแม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมลดการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ได้เรียกร้องกลุ่มโอเปกไม่ให้ลดการผลิตน้ำมัน

-นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นรวม 1.454 หมื่นล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทยในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

-  นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนชี้การเจรจา"ทรัมป์-สีจิ้นผิง"แก้ไขความขัดแย้งการค้า มีแนวโน้มล่ม 55%

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.74 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.13 บาท/US

*จับตา 14 พ.ย. ประชุมกนง. (คาดที่ประชุมมีมติคงอัตราดบ.ที่ระดับเดิม)

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสร่วงลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเรื่องเดิม- สงครามการค้าโลก โดยมีปัจจัยหนุนจากมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยที่เป็นตลาดเกิดใหม่ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,630 -1,655 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- ครม.ยกเลิกค่าวีซ่านักท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW

- หุ้นแนะนำประจำเดือน พ.ย. AUCT XO SPALI KKP

-Low Beta High Dividend ANAN PSH QH ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.13. หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

หุ้นแนะนำพิเศษ

JUBILE Analyst Meeting (อยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงบวก)

  • ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 128 สาขา แบ่งเป็น Jubilee 124 สาขา และFOREVER MARK 4 สาขา โดยในไตรมาส 4 มีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา แบ่งเป็น Jubilee 3 สาขา และ FOREVER MARK 2 สาขา ซึ่งได้มีการเปิดไปแล้วทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ Jubilee 2 สาขา และ FOREVER MARK 2 สาขา (สาขาTerminal21 และ สาขา Icon Siam) อีกทั้งยังมีเปิดตัว New Collection - Hello Kitty (รุ่น4) และเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ iMoment “บันทึกความทรงจำแห่งรัก ผ่านแหวนเพชร” เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี
  • ความเห็น ผบห.ปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 61 ลงจาก 10% สู่ 5% ซึ่งเราถือว่าเป็นเป้าที่ยากเนื่องจาก 9M61 มีรายได้ที่ 1,124 ล้านบาททรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ไตรมาส 4/61 จะต้องมีการเติบโตอย่างมากจากไตรมาส 4/60 ที่มีรายได้สูงถึง 442 ล้านบาท (สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาอีกทั้งมีมาตรการช็อปช่วยชาติจากรัฐบาล) โดยผู้บริหารเตรียมจัดงานอีเวนท์เพิ่มเติมรวมถึงการออโปรโมชั่นเพื่อหนุนให้ยอดขายเติบโต ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากระดับ 7% เหลือเพียง 44-45% อย่างไรก็ตามเราคาดว่า 4Q61 จะเป็นไตรมาสทีมีผลกำไรดีที่สุดในปีนี้จากยอดขายที่จะเติบโตสูงอีกทั้งเป็นช่วง High Season

  • PTT รายงานกำไรไตรมาส 3/61 ที่ 30,329 ล้านบาท +1%QoQ และ +36%YoY และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4% (กำไร 9M61 คิดเป็น 73%ของประมาณการกำไรทั้งปีของ Bloomberg) โดยผลประกอบการได้รับแรงหนุนตากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เติบโตตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย ขณะที่ผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลดลงจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่ลดลง รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่ลดลง แม้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์จะเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจน้ำมันก็ปรับลดลงตามผลกระทบจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง โดยหลักจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน
  • M (ราคาปิด 75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 84.29) รายงานกำไรสุทธิ 3Q61 อยู่ที่ 676 ลบ. +4%YoY สอดคล้องไปกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น 4%YoY เช่นกันสู่ 4,177 ลบ. โดยบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงเดิมได้ที่ 68% และ 16% ตามลำดับ สำหรับกำไรสุทธิช่วง 9M61 อยู่ที่ 1,967 ลบ. คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ Bloomberg Consensus ที่ 2,726 ลบ.
  • ตลท.ปลด C ห้น HYDRO หลังส่วนผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ในงบการเงินงวด Q3/61

หุ้นมีข่าว   

ORI Analyst Meeting (ราคาปิด 7.70 Bloomberg Consensus 14.54)

·        งวด 9M61 มีกำไรสุทธิ 2411 ลบ. +150%YoY เนื่องจากมีรายได้ค่าบริหารโครงการ 1,037 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 9.7% เพิ่มเข้ามาเป็นปีแรก กำไรจากการขายที่ดิน 312 ลบ.  และกำไรจากการขายเงินลงทุนในบ.ย่อยให้กับบจ.โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ที่เข้าร่วมทุน 315 ลบ. อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 40.4% จาก 46.6% ในงวด 9M60 ส่วนอัตรากำไรสุทธิแม้ปรับลงเหลือ 22.6% จาก 24.1% ใน 9M60 แต่ยังอยู่ในระดับสูง

·        แนวโน้มกำไร 4Q61 ยังเติบโตทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากมีรายได้ค่าบริหารโครงการที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้และต่อเนื่องในอนาคตจากการเดินหน้าพัฒนาโครงการร่วมทุน และมีคอนโดฯที่จะเริ่มโอนเพิ่มจาก Park24 (ลงทุนเพิ่มเป็น 100%) อีก 2 โครงการได้แก่ Notting Hill ทำเลจตุจักรและสุขุมวิท105 (รวม backlog 3 โครงการราว 7.7 พันลบ.)  ส่วนปี 62 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้รวม 1.7 หมื่นลบ. +21% โดยมี backlog รองรับแล้ว 64% Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 3 พันลบ. +49%

·        ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตในอนาคตจากรายได้โครงการอสังหาฯ และโครงการ mixed use ที่ช่วยสร้างรายได้ประจำที่จะทยอยเสร็จตั้งแต่ปี 62 อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นลดลด 32%YTD ถูกกดดันจากมาตรการ LTV ที่กระทบภาพรวมธุรกิจ แต่หุ้นมี yield สูงน่าสนใจ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 5.9% แนะนำทยอยซื้อ

·        ประเด็นบวกกลุ่มธนาคาร : ธปท. เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ Q3/61 ขยายตัว 6.3% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก Q2/61 ที่ 5.4%เป็นการขยายตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจ และเป็นการขยายตัวจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคเป็นสำคัญ แต่ผลบวกของเศรษฐกิจยังไม่ส่งผ่านไปยังคุณภาพสินเชื่อของลูกหนี้บางกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจ SME ทำให้ภาพรวมของสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 3/61 ยังทรงตัว โดยอยู่ที่ 2.94% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.93% อย่างไรก็ดี ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ย ตามสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และกำไรจากการขายเงินลงทุน ทั้งนี้ ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเสถียรภาพ มีเงินสำรอง เงินกองทุน และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไปได้

AUCT ราคาปิด 6.00 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 8.25 บาท

·        AUCT มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 14% จากปัจจัยอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวดี คาดมีปริมาณรถเข้าประมูลมากกว่าปีก่อนที่ 5 หมื่นคัน พร้อมพัฒนาระบบ IT รองรับการประมูลรูปแบบใหม่ หนุนการเติบโตในอนาคต แย้มอ้าแขนรับพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ

·        ความเห็นเชิงบวก: ผบห.ตั้งเป้ารายได้การเติบโตที่ 14% มากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 8% เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศปีนี้เติบโตดี ยอดขายรถยนต์ (Passenger Car) เดือน ก.ย +19%YoY นอกจากนี้ บริษัทฯเพิ่งร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการประมูลสินค้าชำรุดเสียหาย มูลค่ากว่า 19 ลบ. เราคาดกำไรปี 61 ที่ 129 ลบ. เติบโต 23%YoY พร้อมทั้งเตรียมปรับประมาณการเชิงบวก

·        + BANPU เผยศึกษาโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปในเวียดนาม หลังทำพลังงานลม 200 MW เริ่ม COD ปี 64

·        กลุ่มบีเอสอาร์ เข้ายื่นซองประมูลไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินเป็นรายแรก ทั้งนี้รฟท.คาดสรุปผลคัดเลือกเอกชนทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกลาง ม.ค.62 เสนอครม.ก่อนเซ็นสัญญาภายใน 31 ม.ค.62

·        WIIK แจกวอร์แรนต์ 124.98 ล้านหน่วยให้ฟรีผถห. 3:1  แจงกำไร Q3/61 หดแรง แต่ยังมี Backlog ทยอยส่งมอบกว่า 600 ลบ

·        CCET เผยบอร์ดอนุมัติสร้าง 2 โรงงานใหม่ใน จ.เพชรบุรี รวมมูลค่าลงทุน 2.29 พันลบ.คาดแล้วเสร็จ Q4/62

·        CPN เข้าร่วมทุน 2 พันธมิตรจากมาเลเซียทำธุรกิจ Co-Working Space ในไทย โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนเท่ากับ 51:29:20 ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนโดยคาดว่าจะมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท