จ่อหมายจับ 'ด.ต.' ปืนดุ ผบ.ตร.สั่งไล่ออก-สอบวินัยร้ายแรง

จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (12พ.ย.) เกิดเหตุ ด.ต.ศิริมงคล ทองสุข ผบ.หมู่ จร.สนธรรมศาลา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายเกรียงศักดิ์ ศรทอง อายุ 35 ปี คนงานส่งหมูกะทะ จำนวน 4 นัด เสียชีวิตคาหน้าร้านหมูกะทะ เลขที่ 365/939 ชุมชนศรีมณฑลสามัคคี ถนนพุทธมณฑล สาย 4 แขวงและเขตทวีวัฒนา ก่อนที่จะหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเกิดจากด.ต.ศิริมงคล มีปากเสียงกับผู้ตายหลังเข้าไปเตือนให้ผู้ตายเปลี่ยนท่อรถจยย.เนื่องจากเสียงดัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงษ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา ได้ทำรายงานเหตุดังกล่าวให้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. , พล.ต.ท. สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ทราบแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน สน.ธรรมศาลา จะเร่งสืบสวนตามจับกุมตัว ดต.ศิริมงคล ทองสุข ผบ.หมู่ จร.สนธรรมศาล ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สน.ธรรมศาลา แล้ว โดยในวันนี้(13 พ.ย. 61) กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุออกจากราชการไว้ก่อนและดำเนินการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้ข้อสันนิษฐานในการก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการทะเลาะกันแต่อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป จนกว่าจะสอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น และยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุและจัดชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“พร้อมกันนี้ ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านกำชับให้ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วยความ รอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเสียเอง ก็ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด และกำชับผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในสังกัดคอยสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการมาโดยตลอด ตำรวจต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไปปฏิบัติหน้าที่เหลื่อมล้ำกับกฎหมาย การประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมหรือกระทำความผิดต่อกฎหมาย เป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อองค์กร ตำรวจในยุคนี้ต้องพร้อมรับการตรวจสอบจากประชาชน เพราะฉะนั้นตำรวจทุกนายต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเองและองค์กร ให้พี่น้องประชาชนเกิดความเชื่อมั่น