พณ.เตรียมจัดทีมศึกษารูปแบบ 'เถาเป่าวิลเลจโมเดล' ก่อนนำปรับใช้กับไทย

พณ.เตรียมจัดทีมศึกษารูปแบบ 'เถาเป่าวิลเลจโมเดล' ก่อนนำปรับใช้กับไทย

"พาณิชย์" เตรียมจัดทีมศึกษารูปแบบ “เถาเป่าวิลเลจโมเดล” ก่อนนำปรับใช้กับไทย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2561 ตนจะนำคณะภาครัฐ ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม

เดินทางไปหารือกับผู้บริหารของอาลีบาบาที่ดูแลโครงการ “เถาเป่าวิลเลจ” ซึ่งเป็นโครงการที่อาลีบาบาช่วยเหลือให้คนยากคนจน ที่อยู่ในชนบทให้สามารถขายสินค้าได้ และสามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนจีนได้สำเร็จ


“เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนในจีน ธนาคารโลกยังยอมรับว่าการใช้ระบบดิจิทัล การค้าขายออนไลน์ ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนได้จริง โดยลดจำนวนผู้ยากจนจากที่มีอยู่ 30% ของประชากร ลดลงเหลือแค่ 8% ในปัจจุบัน ผมจึงได้หารือกับแจ็คหม่าว่าสนใจโมเดลนี้ และอยากได้รายละเอียดการทำโครงการมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในไทย โดยผมบอกกับแจ็คหม่าว่าเรื่องคนจน ผมไม่ยอม ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันเคมีผมกับแจ็คหม่าถือว่าตรงกันในเรื่องนี้ และเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยได้มอบหมายให้ผู้ที่ดูแลโครงการไปพูดคุยในรายละเอียดต่อ ผมจึงต้องเดินทางไป”นายสนธิรัตน์กล่าว


ทั้งนี้ หลังจากไปหารือรายละเอียดการขับเคลื่อนโครงการเถาเป่าวิลเลจแล้ว จะนำรายละเอียดต่างๆ มาปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาความยากจนในไทย โดยจะมีความชัดเจนว่าจะเริ่มที่จังหวัดไหน สินค้าอะไร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องดำเนินการอะไรบ้าง โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนในการขับเคลื่อนหลัก เพราะที่ผ่านมา มีหลายๆ หน่วยงานทำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะผลักดันให้สำเร็จให้ได้


 นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้หารือกับผู้บริหารเหอหม่า ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของอาลีบาบาที่จำหน่ายสินค้าสด เช่น ผัก ผลไม้ อาหารทะเล ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าเพื่อรับประทานที่ร้าน หรือซื้อแล้วให้จัดส่งไปที่บ้านก็ได้ โดยจุดเด่นของเหอหม่า คือ ขายสินค้าสด ที่มีต้นทุนถูกกว่าราคาจำหน่ายในท้องตลาด โดยกระทรวงฯ จะร่วมมือในการจัดส่งสินค้าสดให้กับเหอหม่า เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภคชาวจีน


 “ตอนนี้กำลังคุยกันในรายละเอียดว่าเหอหม่าต้องการสินค้าอะไร ปริมาณเท่าไร คุณภาพ มาตรฐานแบบไหน ราคาเป็นยังไง ซึ่งหากได้ข้อสรุป จะสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารสดของไทยไปจีนได้อีกมาก”

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับอาลีบาบาในการเพิ่มจำนวนสินค้าไทยเข้าไปจำหน่ายใน Tmall ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายสินค้าข้าว ทุเรียน และลำไยไปแล้ว โดยขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกสินค้าเข้าไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น