ถกแนวทางปรับหนี้องค์การค้าฯ

ถกแนวทางปรับหนี้องค์การค้าฯ

"หมอธี" แก้ปัญหาหนี้วิกฤตองค์การค้าฯ ระบุมีประมาณ 3 ราย เสนอขอพักชำระหนี้ พร้อมขออนุมัติปรับลดราคาประเมิน เป็นไปตามราคาประเมินตามท้องตลาด พิจารณาส่วนลดพิเศษเฉพาะหนังสือค้างสต๊อก จัดอ็อพชั่นพิเศษให้แก่ร้านค้าตัวแทนที่จะดำเนินการเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.61 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)เปิดเผยภายหลังการประชุมองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมได้ระดมความคิดเห็นถึงการแก้ปัญหาหนี้ขององค์การค้าฯ ซึ่งมีหลากหลายแนวทางในการแก้ปัญหา โดยแต่ละข้อเสนอมีความน่าสนใจแต่ยังไม่ตกผลึกอย่างชัดเจน เพราะงานเร่งด่วน คือต้องแก้ไขปัญหาหนี้สินขององค์การค้าฯให้ได้ โดยเฉพาะหนี้เฉพาะหน้าวิกฤต เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นเจ้าหนี้ เป็นต้น ซึ่ง สพฐ.จะมีแนวทางใดบ้างที่ช่วยจะองค์การค้าฯ

นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ว่า ขณะนี้องค์การค้าฯมีเจ้าหนี้ที่กำหนดต้องใช้หนี้อยู่ประมาณ 3 ราย ซึ่งได้เสนอ รมว.ศธ.ไปช่วยขอพักชำระหนี้ไปก่อน ส่วนที่เจ้าหนี้เป็นหน่วยงานภาครัฐ เช่น สพฐ. สำนักงานปลัด ศธ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดย สสวท. นพ.ธีระเกียรติ ได้มอบนายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการศธ.ในฐานะปฎิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ ไปเจรจา ส่วน สพฐ.จะขอให้ รมว.ศธ.ตรวจสอบรายละเอียด หากพักชำระหนี้ได้ก็ให้พักชำระหนี้ไปก่อน โดยหนี้ในส่วนของสพฐ.มีประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าลิขสิทธิ์แบบเรียน แต่ค่าลิขสิทธิ์ที่ สพฐ.ได้รับเงินไปซึ่งได้รับแจ้งจากที่ประชุมว่า เป็นเงินเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเหมือนเงินบำรุงค่าการศึกษาของโรงเรียน โดยจะให้ไปดูว่าถ้าองค์การค้าฯขอพักชำระหนี้ไม่จ่ายให้สพฐ.ในตอนนี้ สพฐ.จะเดือดร้อนหรือไม่ หรือถ้ายืดเวลาการชำระหนี้ได้ก็ขอให้ยืดระยะเวลาออกไปก่อน รวมถึงองค์การค้าฯยังมีสัญญาที่ทำร่วมกับ สพฐ.คือ จากหนี้ค้างเดิมจะถูกหักไว้ 40% แต่ครั้งนี้ แต่จะขอพักไว้ก่อนอย่าเพิ่งหัก

ทั้งนี้ ส่วนการชำระหนี้ภาพรวมต่างๆขององค์การค้าฯนั้นได้มีการหารือกันว่า จะให้องค์การค้าฯและสกสค.มาดูรายละเอียดเพื่อจัดทำแผนว่า หนี้ส่วนใดถึงกำหนดการชำระที่ต้องชำระก่อน ขณะเดียวกันยังได้มีการขออนุมัติจากที่ประชุมในการขอบริหารจัดการเรื่องที่ดิน 2 ไร่ย่านลาดพร้าว กทม. โดยขอปรับลดราคาประเมินลง เพื่อให้เป็นไปตามราคาประเมินตามท้องตลาด เพราะราคาเดิมที่ตั้งไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีผู้เสนอการประมูลราคาเข้ามา ส่วนแนวทางอื่นๆ เช่น หนังสือที่ค้างสต๊อกอยู่ในคลังสินค้านั้น จะพิจารณาส่วนลดพิเศษเฉพาะหนังสือค้างสต๊อก ประมาณ 175 ล้านบาทตามราคาปก ซึ่งจัดเป็นอ็อพชั่นพิเศษให้แก่ร้านค้าตัวแทนที่จะดำเนินการเร็วๆนี้เป็นราคาพิเศษไป เพื่อลดล้างสต๊อกให้หมด

นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นสำคัญได้เสนอ รมว.ศธ.คือ สื่อและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ สสวท.ให้องค์การค้าฯผลิตที่จัดอยู่ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีการคัดเลือกและเฉพาะเจาะจง ซึ่งตรงนี้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ขององการค้าฯที่ผลิตสามารถให้หน่วยงานสั่งซื้อได้วิธีเฉพาะเจาะจงได้ โดยไม่จำกัดวงเงินแต่กฎกระทรวงฉบับนี้ไปกำหนดว่าถ้าเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงได้ไม่เกิน 130,000 บาท แต่ สพฐ.จัดสรรเรื่องนี้โดยให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ e-bidding ทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้ รมว.ศธ.ได้เห็นชอบในหลักการให้มีการกลับไปทบทวนแล้ว ทั้งนี้ปัญหาที่ผ่านมาองค์การค้าฯได้งานพิมพ์จากส่วนราชการ ศธ.ค่อนข้างน้อย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ รมว.ศธ.นั่งหัวโต๊ะเองพิจารณางบประมาณของแต่ละแท่งว่างบประมาณในส่วนไหนที่จ้างองค์การค้าพิมพ์ได้ก็ต้องจ้างก้อน โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะจ้างองค์การค้าฯพิมพ์ไดอารีด้วย

ด้าน นายวีระกุล กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาวมีการแก้ไขปัญหาระดับคณะกรรมการกำหนดนโยบายการจัดซื้อสื่อของ ศธ.โดยมี รมว.ศธ. เป็นประธาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย ผู้บริหารองค์กรหลักฯเข้ามาช่วยพิจารณาการจัดซื้อสื่อที่เหมาะสมสำหรับกระทรวง ดังนั้น จึงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวขององค์การค้าฯได้