คุมตัวมือฆ่า 'ติวเตอร์' ทำแผน เจ้าตัวอ้างทำเพราะโกรธแค้นหึงหวง นัดออกมาเจอกลับถูกด่ารุนแรง เสียใจขอโทษแม่ผู้ตาย ฝากขังบ่ายนี้
จากกรณีที่ฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูน ได้จับกุม นายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล อายุ 30 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงนายณัฐวัฒน์ เพียรสกุล หรือโบ้ต อายุ 27 ปี ติวเตอร์สอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนนำศพยัดอำพรางทิ้งไว้บริเวณใต้ท้องรถแท็กซี่โตโยต้า โคโรร่านีโม่ สีชมพู ทะเบียนป้ายเหลือง ทย 5563 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ริมถนนภายในซอยประชาชื่น 4 แยก 1-4 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. นั้น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่สน.เตาปูน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รองผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.สน.เตาปูน ได้เดินทางเข้าสอบปากคำนายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลาอาญาเลขที่ 2506/2561 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน และซ่อนเร้นย้าย หรือทำลายศพ หรือ ส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในคดีนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน หลังจากเกิดเหตุก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูน ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามตัวคนร้ายทราบว่าภายหลังก่อเหตุคนร้ายได้พยายามจะกลับเข้ามาภายในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อพบตัวนายสุรสิทธิ์จึงได้ทำการจับกุมตัวทันที จากการสอบปากคำนายสุรสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า นายสุรสิทธิ์และนายณัฐวัฒน์ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว ทราบเพียงว่านายณัฐวัฒน์เป็นแฟนใหม่ของน.ส.ศศิกานต์ คันทัพไทย อายุ 26 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คบหากับนายสุรสิทธิ์มาเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะเลิกกันได้เพียง 1 เดือน และได้ไปคบหากับนายณัฐวัฒน์ ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน นายสุรสิทธิ์จึงได้ทำการหลอกล่อนายณัฐวัฒน์ เพื่อนัดเจอที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านอิสระภาพ โดยอ้างว่าต้องการให้มาติวพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้ จากนั้นได้พากันมาพูดคุย เพื่อเคลียร์ปัญหาในรถยนต์ของนายสุรสิทธิ์ แต่ได้มีปากเสียงกัน นายสุรสิทธิ์จึงเกิดบันดาลโทสะ ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายณัฐวัฒน์ที่กำลังหันหลังอยู่เพื่อลงจากรถ
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อเวลา 00.00 น. ของวันที่ 9 พฤศจิกายน ได้นำรถยนต์ที่มีศพของนายณัฐวัฒน์มาจอดทิ้งไว้ที่ซอยประชาชื่น 4 ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน ได้อำพรางศพด้วยการนำมาซ่อนไว้ใต้รถแท็กซี่ จนกระทั่งมีผู้พบเห็นและได้แจ้งว่าพบศพอยู่ภายใต้ท้องรถแท็กซี่ จากการสอบถามเพิ่มเติมพบว่านายสุรสิทธิ์ ได้เคยพูดกับน.ส.ศศิกานต์ว่าถ้ามีแฟนใหม่ก็ให้ระวังตัวไว้ด้วย แต่ไม่ได้ตั้งใจจะยิงจริงๆ แต่เกิดบันดาลโทสะจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เตาปูนได้ควบคุมตัวนายสุรสิทธิ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดที่ 1 ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านอิสระภาพ ซึ่งเป็นจุดที่นายสุรสิทธิ์นัดแนะให้ผู้เสียชีวิตมาสอนพิเศษให้ก่อนจะมีปากเสียงและใช้อาวุธปืนยิงนายณัฐวัฒน์จนเสียชีวิต จุดที่ 2 ภายในซอยประชาชื่น 4 ซึ่งเป็นจุดที่นำศพมาทิ้งไว้ก่อนจะยัดใส่ใต้ท้องรถของแท็กซี่
ด้านนายสุรสิทธิ์ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำไปเพราะโกรธแค้นหึงหวง ประกอบกับวันเกิดเหตุได้โทรไปเรียกให้ผู้ตายออกมาเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อย ตนบอกให้เขาเลิกยุ่งกับแฟน แต่เขาไม่ยอมเลิก พร้อมทั้งด่าและว่าผมว่า “ควาย โง่เองที่โดนแย่งเมียไป” หลังจากเขาพูด ผมก็อารมณ์ชั่ววูบไป เลยยิงเขาแล้วได้นำถุงดำไปคลุมศีรษะเนื่องจากเลือดมันเยอะ ส่วนที่นำศพมาทิ้งไว้ที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นสถานที่คุ้นเคยอยู่ในระแวกบ้าน ปกติเป็นคนพกปืนติดตัวอยู่แล้ว วันเกิดเหตุได้นำปืนมาด้วย แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้เหมือนกัน ผมเสียใจต่อแม่ผู้ตายเหมือนกัน อยากจะขอโทษแม่ด้วย
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายสุรสิทธิ์ไปฝากขังต่อศาล ซึ่งท้ายคำร้องของพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์