วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (9 พ.ย.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (9 พ.ย.61)

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังโดนกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังระดับการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวันและคาดว่าจะแตะระดับ 12 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในกลางปี 2562 นอกจากนี้ อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินโดนีเซียได้ส่งสัญญาณว่าการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศจะเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้า

- นักลงทุนยังคงมีมุมมองขาลงต่อตลาดน้ำมันดิบ หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านให้แก่ 8 ประเทศเป็นเวลา 180 วัน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกในปลายปีนี้จะอยู่ในสภาวะล้นตลาด

+ การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากเดือนก่อนหน้า ขึ้นมาแตะระดับ 9.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ประเทศจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และได้รับการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในปริมาณ 360,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 180 วันแรกของมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ

+ จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค อาจจะมีการประชุมหารือการลดระดับการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้คงอยู่ได้ในระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน  ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสต็อกน้ำมันเบนซินในตะวันออกกลางปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ขึ้นไปแตะระดับ 10.84 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากเข้าใกล้ฤดูหนาว ประกอบกับโรงกลั่นฯ ในภูมิภาคเอเชียเหนือมีการส่งออกลดลง รวมทั้งมีอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • อุปทานน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ฯ ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่อาจล้นตลาด หลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ประกอบด้วย จีน อินเดีย กรีซ อิตาลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ตุรกี และเกาหลีใต้ สามารถนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร
  • จับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย. นี้

------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)         

        โทร.02-797-2999