บวกได้ไม่มาก
SET Index วานนี้สามารถยืนในแดนบวกได้ตลอดวัน หลังจากผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคเดโมแครต ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,681.73 จุด (+6.40 จุด) Volume 4.9 หมื่นลบ. จาก Foreign Net +1,459.18 ลบ. TFEX Net +2,248 สัญญาตราสารหนี้ -119 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
+ FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ส่วนปีหน้า FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง และอีก 1 ครั้งในปี 2563
+ จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มาตรวัดเงินเฟ้อ +2.5%YoY ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการขยายตัวในเดือนก.ย.
+ การเลือกตั้งในไทยชัดเจนมากขึ้นหลังพรป.เลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ธ.ค. 61 คาดวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 ประกาศผลการเลือกตั้ง เม.ย. 62
⁃ ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่ง 9 วันติดต่อกันจากกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังปท.ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
-IMFหั่นตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปปีนี้-ปีหน้าจากผลกระทบสงครามการค้า
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.71 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.99 บาท/US
*9 พ.ย. ธปท.ออกประกาศหลักเกณฑ์ควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยบวกและลบคละเคล้า FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า fund flow ไหลออก ราคาน้ำมันปรับลง แต่ในประเทศมีข่าวดีเรื่องการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้น คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,664 -1,687 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ครม.ยกเลิกค่าวีซ่านักท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW
- หุ้นแนะนำประจำเดือน พ.ย. AUCT, XO, SPALI, KKP
- Low Beta High Dividend ANAN, PSH, QH, ASK, TISCO, KKP, SPRC, TOP, TKS
- เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.81 หนุนกลุ่มส่งออก CPF, SVI, XO
- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI
หุ้นแนะนำพิเศษ
IVL Analyst meeting (ราคาเหมาะสม Bloomberg 73.59) มุมมองบวก
- รายงานกำไร 3Q61 ที่ 1 หมื่นล้านบาท +186%YoY และ +21%QoQ และสูงกว่าที่ตลาดคาด 20% โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 14%YoY สู่ 7 ล้านตันจากผลิตภัณฑ์ PET Fibers และ Feedstock ที่เพิ่มขึ้น 39% 31% และ 44%YoY ตามลำดับ อีกทั้งส่วนต่างผลิตภัณฑ์ PTA ทั้งฝั่งตะวันตกและเอเชียปรับตัวขึ้นสู่ 150 $/Ton และ 92$/Ton +1% และ 475%YoY ตามลำดับ
- 9M18 บริษัทยังคงเน้นการขยายกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์ PET และ HVA โดยได้ทำการเข้าซื้อกิจการ 9 แห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วโลก โดยเน้นการซื้อโรงงานที่ทำการผลิต PET และ HVA เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามกลยุทธ์ของบริษัท
- ความเห็น กำไร 9M61 อยู่ที่ 24,110 ล้านบาทคิดเป็น 99% ของคาดการณ์กำไรปี 18 ของ Bloomberg ที่ 24,923 ล้านบาท ทำให้เราคาดว่า Bloomberg จะปรับประมาณการขึ้นจาก 2 เหตุผล 1)การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ IVL และ 2)ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ PTA ยังทรงตัวในระดับสูง
- TACC ราคาปิด 3.46 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 62 เท่ากับ 5 บาท
รายได้รวม 3Q61 เท่ากับ 313.3 ลบ. (+1.2%YoY ,-4.7%QoQ) รายได้เติบโตเพิ่มขึ้น YoY ตามจำนวนสาขา 7-11 ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมียอดขายจากการขายลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน Rilakkuma และ การร่วมเป็นพันธมิตรกับ A&W ที่ปัจจุบันร่วมมือไปกว่า 8 สาขาแล้ว ช่วยลดผลกระทบจากการหยุดขายสินค้าตรา Zenya ที่กัมพูชา แต่ยังหดตัว QoQ จากปัจจัย Seasonal ขณะที่ %GPM อยู่ที่ 30.65% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 29.04% หลังจากผลกระทบภาษีน้ำตาลได้ผ่านพ้นไป ขณะที่กำไรสุทธิ เท่ากับ 22 ลบ. (-0.5%YoY +2.6%QoQ) ปรับตัวดีขึ้น QoQ แม้ว่าจะมีผลกระทบ Seasonal แต่ลดลง YoY เนื่องจากมีการบันทึกรายการขาดทุนจากกิจการร่วมค้า 1.1 ลบ. ส่วน %NPM อยู่ที่ 7.02% ปรับตัวลดลงจาก 3Q60 ที่ 7.1% กำไร 9M61 เท่ากับ 59 ลบ. คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปีซึ่งอยู่ที่ 99 ลบ. ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก Q4 เป็นช่วง High Season อีกทั้งการนำเครื่องดื่มกระแสนิยมอย่าง Hershey’s เข้าไปวางขาย และคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้ว
หุ้นมีข่าว
LPN Analyst Meeting (ราคาปิด 9.55 Bloomberg Consensus 11.32)
· รายงาน 3Q61 มีกำไร 293 ลบ. ดีกว่า Consensus คาด 10% เติบโต 45%YoY โดยมีรายได้ลดลง 2.4% แต่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 32.2% จาก 25.6% ในงวด 3Q60 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของรายได้ในการบริการเป็นหลัก งวด 9M61 มีกำไร 840 ลบ. +10%YoY
· ปลายเดือนก.ย. 61 มี Backlog ราว 12,700 ล้านบาท คาดจะโอนภายในปีนี้ 6,700 ล้านบาท ที่เหลืออีก 6,000 ล้านบาทจะโอนปี 62 ประมาณ ใน Q4 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 8,350 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ บริหารมีความกังวลต่อมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์จะทำให้ขายโครงการได้ยากขึ้น
· ควรระวังแรงขายทำกำไรผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด และคาดว่า Consensus มีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรปีหน้า ทำให้เห็นการเติบโตไม่มากนักจากปีนี้ IAA consensus คาด yield เฉลี่ย 5.8% แนะนำถือ
· ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า : กกพ.ปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย.62 จากงวดก่อน 4.30 สต./หน่วย ตามราคาเชื้อเพลิงถีบตัวสูงขึ้น (ที่มา : IQ)
· +GLOBAL (ราคาปิด 20.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 20.33) มั่นใจสิ้นปี 2561 ขยายสาขาครบ 62 สาขา หนุนยอดขายต่อสาขาเดิมโต 3% เร่งพัฒนาคุณภาพสินค้า รุกทำการตลาดออนไลน์ดันรายได้-กำไรขั้นต้นขยับเป็น 13% เตรียมศึกษาลงทุนร่วมพันธมิตรเจาะตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน (ที่มา : ทันหุ้น)
· +KBANK (ราคาปิด 206 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 233.11) ทุ่มงบ 1,600 ล้านบาท ลงทุน GRAB ผ่านบริษัท Beacon VC มุ่งพัฒนาสินค้าการเงิน-แอพพลิเคชันชำระเงิน "แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์" คาดว่าเปิดให้บริการในปี 2562 (ที่มา : ทันหุ้น)
· +INTUCH (ราคาปิด 51.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 67.75) ยอมรับรายได้ปี 2561 วูบตามรายได้ THCOM ลดลงหลังขายหุ้น CSL ให้ ADVANC พร้อมปิดดีลลงทุนเวนเจอร์ แคปปิตอล เล็งนำ "WONGNAI-YDM Thailand" เข้าตลาดหุ้นปี 2563(ที่มา : ทันหุ้น)
· +BGRIM (ราคาปิด 27.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 31.75) มั่นใจปีนี้รายได้โต 15-20% ตามเป้า จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผน เตรียม COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ กำลังการผลิต 31 เมกะวัตต์ เดือนธันวาคมนี้ หนุนผลงานไตรมาส 4/2561 โตต่อเนื่อง(ที่มา : ทันหุ้น)
· "PTTEP-เชฟรอน" ผ่านคุณสมบัติประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ" ซอง 1-3 เรียบร้อยแล้ว พร้อมลุ้นผลเปิดซองที่ 4 โดยจะใช้เวลาพิจารณา 2 สัปดาห์ก่อนชงครม. คาดประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลภายในเดือน ธ.ค.61 (ที่มา : ข่าวหุ้น)
· BH (ราคาปิด 189.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 199.26) จับมือ MK ลงทุนกิจการสถานพยาบาล บางกระเจ้า บริการครบวงจรด้านเวชศาสตร์ฯ มูลค่า 270 ล้านบาท พร้อมอนุมัติร่วมลงทุนใน iDoter Pte Ltd มูลค่า 90 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)