รบ.รับร่างกม.ปลดล็อกกัญชา ขอ30วันพิจารณาก่อนส่งคืนสนช.

รบ.รับร่างกม.ปลดล็อกกัญชา ขอ30วันพิจารณาก่อนส่งคืนสนช.

รัฐบาลรับร่างกม.ปลดล็อกกัญชาจากสนช.แล้ว ขอเวลา 30 วันพิจารณาก่อนส่งคืนให้รับหลักการวาระแรก ด้าน สนช. อภิปรายเพิ่มบทกำหนดโทษผู้ใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบ หวั่นมีปัญหากับศาล คดียาเสพติด


ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีวาระพิจารณาเนื้อหาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ..... เพื่อปลดล็อคกัญชา และกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามเงื่อนไขเพื่อใช้ในทางการแพทย์ ซึ่ง มีสมาชิกสนช. จำนวน 44 คน นำโดย นายสมชาย แสวงการ สนช. เป็นผู้นำเสนอ ทั้งนี้ในการพิจารณาดังกล่าว นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฐานะตัวแทนของรัฐบาล ได้เห็นชอบในสาระและรับร่างพ.ร.บ. กลับไปพิจารณาภายใต้กรอบ 30 วันก่อนจะส่งกลับมายัง สนช. ให้พิจารณารับหลักการวาระแรกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว นายสมชาย ชี้แจงพร้อมอภิปรายเนื้อหาโดยสังเขป ว่า การแก้ไขร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ เพื่อให้ยาเสพติดประเภทกัญชาและกระท่อม อยู่ภายใต้กำกับ ดูแลของรัฐ ร่วมถึงส่งเสริมให้หน่วยงานราชการ ภาควิชาการ เอกชน และกลุ่มแพทย์ ทั้งแผนไทย, ประยุกต์ และ แผนปัจจุบัน ใช้ประโยชน์จากสารสกัดจากกัญชาและกระท่อมเพื่อเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีงานวิจัยของสาธารณสุขยืนยันถึงการใช้ประโยชน์ได้จริง ดังนั้นการพิจารณาร่างกฎหมายที่จะนำไปรวมกับความเห็นข้อเสนอแนะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาข้อเสนอแนะที่ได้รับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย


นอกจากนั้นยังมี สนช. ที่อภิปรายให้ความเห็นเพิ่มเติมอาทิ นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อภิปรายว่า ควรพิจารณาเพิ่มบทลงโทษกับบุคคลที่ไม่ได้ปฏิบัติตามร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว อาทิ ความผิดแพทย์ที่ดุลยพินิจที่ไม่ชอบ ขณะเดียวกันควรกำหนดบทเฉพาะกาลให้ชัดเจน ต่อประเด็นที่ก่อนหน้านี้มีการจำกุมและดำเนินคดีในศาล ที่ยังรอการพิพากษา คดีที่มีบุคคลทำผิดทั้งเสพ ครอบครองกัญชาหรือกระท่อม เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาภายหลังที่ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ รวมถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐจับกุมกัญชา และกระท่อม พร้อมยึดเป็นของกลาง ควรมีบทกำหนดให้หน่วยงานสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ จากเดิมที่ต้องเผาทิ้ง หรือทำลายเท่านั้น