วิตกน้ำมันล้นกดราคาเวสต์เท็กซัสร่วงต่อวันที่ 9

วิตกน้ำมันล้นกดราคาเวสต์เท็กซัสร่วงต่อวันที่ 9

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 เหตุนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ รวมถึงสหรัฐ รัสเซีย และซาอุฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (ดับเบิลยูทีไอ) ส่งมอบเดือนธ.ค. ในตลาดนิวยอร์กของสหรัฐปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดี (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ลดลง 1.00 ดอลลาร์ (1.6%) ปิดที่ 60.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ปีนี้

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.42 ดอลลาร์ (2%) ปิดที่ 70.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 9 หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยรายงานเมื่อวานนี้ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐในปี 2562 จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน อีไอเอระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 7 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล

นอกจากนั้น สหรัฐผลิตน้ำมัน 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่ารัสเซีย จนทำให้สหรัฐเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกขณะนี้ และคาดว่าจะผลิตน้ำมันมากกว่า 12 ล้านบาร์เรลต่อวันในกลางปีหน้า

ด้านรัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และบราซิลก็ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน ขณะที่อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอินโดนีเซีย ส่งสัญญาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเกิดจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ความอ่อนแอของค่าเงินเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชีย

นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตรของโอเปค ในวันอาทิตย์นี้ (11 พ.ย.) ที่กรุงอาบูดาบีของยูเออี