นายกฯ บอกเจ้าของ 'แพเธค' ให้ขึ้นไปยืนฟังบนฝั่งจะรู้เสียงดังหรือไม่

นายกฯ บอกเจ้าของ 'แพเธค' ให้ขึ้นไปยืนฟังบนฝั่งจะรู้เสียงดังหรือไม่

นายกฯ บอกผู้ประกอบการ "แพเธค" เสียงดังหรือไม่ ให้ไปลองยืนฟังบนฝั่ง แนะให้ปรับปรุง อย่าไปจ่ายใต้โต๊ะ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 พ.ย.61 ที่ท่าน้ำวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) จ.กาญจนบุรี ก่อนเดินทางโดยเรือ เพื่อตรวจลำน้ำบริเวณแม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่กลอง จากท่าแพวัดเทวสังฆาราม ไปยังท่าแพเขื่อนขุนแผน เทศบาลเมืองกาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้พบปะกับชาวแพเมืองกาญจนบุรี และนักเรียน ลูกเสือ เนตรนารี ที่มาต้อนรับ โดยนายกฯกล่าวว่า สัญญากันนะว่าจะปรับปรุง แต่จะพยายามไม่ให้ใครเดือดร้อน อะไรที่ไม่เคยเปลี่ยนก็เปลี่ยนบ้าง ถามว่าแพเธคเสียงดังหรือไม่ ลองเปิดแล้วขึ้นมายืนบนฝั่งฟังดู ยืนยันตนไม่ได้ต้องการทำลายธุรกิจของใคร ทุกอย่างอยู่ที่พวกเราทุกคนว่าสิ่งที่พูดมาทำได้ทั้งหมดหรือไม่ มีแพอยู่เต็มไปหมด ก็ต้องนึกถึงเจ้าของพื้นที่ด้วย ต้องแบ่งปันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ความเป็นธรรม คนก็จะมาเที่ยวเมืองกาญจน์เยอะขึ้น แต่ถ้ามาแล้วเจอแต่แพ คนก็อาจจะมาเที่ยวน้อยลง หากจัดระเบียบไม่ดี ไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่มีใครอยากมา รัฐบาลค้ำประกันไม่ได้ พวกเราต้องช่วยกัน นายกฯก็ไม่อยากทำให้วุ่นวาย ขอบคุณทุกคน คนปัจจุบันและรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า อย่ายินยอมให้ใครมาเรียกรับผลประโยชน์ ใครเรียกรับผลประโยชน์ให้มาบอก รัฐบาลไม่มีนโยบายรับผลประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้าไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ประเทศต้องเปลี่ยนให้ได้ในยุคสมัยเรา ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังวางแผนจะเอาคนมาเที่ยวที่นี่เพิ่มขึ้น ถ้าผู้ประกอบการนึกถึงคนอื่นก็จะได้อะไรกลับมาอีกเยอะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ กำลังพูดกับชาวแพ มีหญิงวัย 65 ปีพูดแทรกขึ้นมาว่า นายกฯขอกอดทีได้ไหม นายกฯตอบกลับว่า เกี่ยวกับแพตรงไหน หญิงคนดังกล่าวจึงตอบว่า เกี่ยวกับความชอบ ขอให้เป็นนายกฯ 20 ปี ก่อนเข้าสวมกอดนายกฯ ขณะที่นายกฯกล่าวต่อว่า “ให้ผมอยู่ต่อเดี๋ยวชาวแพจะไล่ผมก่อน อย่าเพิ่งมาไล่ก่อนเลย เดี๋ยวอะไรก็จะดีขึ้น”

ในตอนท้ายนายกฯกล่าวด้วยว่า ตนพูดอะไรก็ต้องทำ ขอให้ทุกคนช่วยกันต่อไป พร้อมให้เด็กกล่าวคำปฏิญาณกฎของลูกเสือ 3 ข้อด้วย