'3พี่น้องจารวิจิต' ขึ้นศาลสู้คดีฟอกเงินบิตคอยน์ ให้การปฏิเสธโกง797ล้าน

'3พี่น้องจารวิจิต' ขึ้นศาลสู้คดีฟอกเงินบิตคอยน์ ให้การปฏิเสธโกง797ล้าน

"ปริญญา-บูม-สุพิชฌาย์" ขึ้นศาล ยืนกรานปฏิเสธ2ข้อหาสมคบฟอกเงิน-ร่วมฟอกเงิน ปมลวงนักธุรกิจฟินแลนด์ลงทุนกว่า 700 ล้าน ศาลนักตรวจหลักฐาน 24 ธ.ค.นี้

ที่ห้องเวรชี้ (ห้องควบคุมใต้ถุนศาล) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลได้สอบคำให้การ คดีฟอกเงินลงทุนบิตคอยน์ หมายเลขดำ ฟย.50/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 ยื่นฟ้อง นายปริญญา จารวิจิต อายุ 37 ปี, นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม นักแสดงซีรี่ย์วัยรุ่นชื่อดัง อายุ 27 ปี , น.ส.สุพิชฌาย์ จารวิจิต อายุ 32 ปี ซึ่งทั้งสามคนเป็นชาว จ.ชลบุรี

ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวและเป็นพี่น้องกัน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำผิดฐานฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา3,5,9,60
โดยอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างต้นเดือน มิ.ย.- 30 ธ.ค.60 จำเลยทั้งสามกับพวกอีก 6 คนร่วมกันวางแผนและสมคบกันด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหลอกลวงชักชวนให้นายเออาร์นี่ย์ โอตาวา ชาริมา (Aamai Otava Saarimaa) ชาวฟินแลนด์ ผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจซื้อหุ้นของ บริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอร์ฟแวร์ จำกัด(Expay Software) , ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจสร้างเงินดิจิตอลสกุล ดราก้อน คอยน์ กับ บริษัทเอ็นเอ็กซ์ เชน อินคอร์ปอเรเต็ด (NX Chain Inc.) และซื้อหุ้น บริษัท ดีเอ็นเอ (2002) จำกัด (มหาชน) จำนวน 500 ล้านหุ้น

ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินดิจิตอลสกุลบิตคอยน์ (Bitcoins) จำนวนหลายครั้งเข้าไปในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยทั้งสามกับพวกที่เปิดรองรับไว้แล้วพวกจำเลยได้เงิน บิตคอยน์ดังกล่าวไปขายในระบบซื้อขายอินเตอร์เน็ต คิดเป็นเงินจำนวน 797,408,454.33 บาท และนำเงินที่ขายได้เข้าบัญชีธนาคารของจำเลยทั้งสามกับพวก ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีการลงทุนทำธุรกิจจริง ขณะที่จำนวนหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอฯ ที่ผู้เสียหายได้ซื้อไปก็ไม่ได้ครบตามจำนวนที่ตกลงซื้อ

ซึ่งภายหลังจำเลยทั้งสามกับพวก ก็ได้ร่วมกันนำทรัพย์สินดังกล่าวที่ได้จากการกระทำผิดหลายครั้งนั้นไปเปลี่ยนสภาพเพื่อปกปิดแหล่งที่มา โดยเมื่อวันที่ 11 ต.ค.60 จำเลยทั้งสามได้นำเงิน 20 ล้านบาทโดยนายปริญญา จำเลยที่ 1 เป็นผู้ซื้อและทำนิติกรรมซื้อที่ดิน 2 แปลง เนื้อที่ 2 งาน 7ตารางวา แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ,วันที่ 12 ต.ค.60 นายปริญญา จำเลยที่ 1 ได้นำเงิน 59 ล้านบาทไปซื้อที่ดิน 2 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 143.5ตารางวา แขวง-เขต ดินแดง กทม. ,วันที่ 19 ต.ค.60 นายปริญญา จำเลยที่ 1ได้นำเงิน 27,140,000 บาท ไปซื้อที่ดิน 2 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 118.9ตารางวา ใน จ.นนทบุรี , วันที่ 29 พ.ย.60 นายปริญญา จำเลยที่ 1 ได้นำเงิน 18,450,000 บาทไปซื้อที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 1 งาน 23 ตารางวา แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

และเมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม จำเลยที่ 2 นำเงิน 43,130,000 บาทไปซื้อที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 80 ตารางวา แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. ,วันที่ 6 ธ.ค.60 น.ส. สุพิชฌาย์ จำเลยที่ 3 นำเงิน 8.5 ล้านบาทไปจดทะเบียนขายฝากที่ดิน 6 แปลง เนื้อที่ 94.5ตารางวา แขวงจันทรเกษม แขวงลาดยาว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. (รวมเงินทำธุรกรรมที่ดินทั้งสิ้น 176,220,000 บาท) เหตุเกิดที่ แขวงจันทรเกษม แขวงลาดยาว แขวงจอมพล เขตจตุจักร , แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา , แขวง-เขตดินแดง แขวง-เขตห้วยขวาง แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี , แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. , ต.บางกร่าง และ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี , ต.บางพระ และต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 เจ้าพนักงานจับกุมสามารถจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม จำเลยที่ 2 ได้ ส่วน น.ส. สุพิชฌาย์ จำเลยที่ 3 จับกุมได้เมื่อวันที่ 15 ส.ค.61 และจับกุม นายปริญญา จำเลยที่ 1 ได้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในชั้นสอบสวนทั้งสามให้การปฏิเสธ

โดยในส่วนของนายปริญญา จำเลยที่ 1 ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในชั้นฝากขังตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ศาลก็ได้เบิกตัวจำเลยมาสอบคำให้การ ส่วน นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูมจำเลยที่ 2 น้องชาย กับ น.ส.สุพิชฌาย์ จำเลยที่ 3 น้องสาวนั้น ทั้งสองได้รับการประกันตัวตั้งแต่ชั้นฝากขัง เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา คนละ 2 ล้านบาท ก็เดินทางมาศาลพร้อมสอบคำให้การ
ซึ่ง ศาล ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสามฟังแล้ว สามพี่น้องจารวิจิตร จำเลยที่ 1-3 ก็ให้การปฏิเสธ โดยศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสอบคำให้การแล้ว บูม จิรัชพิสิษฐ์ กับ น.ส.สุพิชฌาย์ พี่สาวก็ได้เดินทางกลับไปทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ