ไทยรักไทย ยุค2018

คือวันที่ 24 ก.พ. 2562 เท่ากับว่าผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส. จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่เกิน 26 พ.ย.นี้ ขณะนี้เราจึงได้เห็นภาพความเคลื่อนไหวจากบรรดาพรรคการเมืองในการหากสมาชิกพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

000 หนึ่งความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่ต้องจับตาในวันนี้ (7 พ.ย.) คือ การเปิดตัว “พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)” พร้อมเปิดเผยโฉม “คีย์แมน” ที่จะมาร่วมงานพรรค ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็น อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยซึ่งมีความใกล้ชิด หรือเป็น “สายตรง” อดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” มาตั้งแต่สมัย “พรรคไทยรักไทย”

000 ไม่ว่าจะเป็น วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ส.ส. สาย “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” น้องสาวอดีตนายกฯทักษิณ, จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย,นพดล ปัทมะ คนสนิทอดีตนายกฯ

000 หรือคนรุ่นใหม่อย่าง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตส.ส.ขอนแก่น บุตรชาย “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่มีการคาดการว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรค , มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร สิงห์ เชียงรายยูไนเต็ด บุตรชาย “ยงยุทธ ติยะไพรัช” อดีตประธานรัฐสภา ที่คาดว่าจะมาเป็นเลขาธิการพรรค

000 รวมถึงคนใน “ตระกูลชินวัตร” อย่าง ฤภพ ชินวัตร บุตรชาย “พายัพ ชินวัตร” น้องชายอดีตนายกฯ ซึ่งถือเป็นหลานลุงของอดีตนายกฯทักษิณ

000 รายชื่อที่ปรากฏออกมาหลายคนล้วนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นอดีตแกนนำหรือบุคคลที่เคยร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย แต่ทว่า หากมองในแง่ของกระแสการเมืองในขณะนี้ขณะนี้ต้องยอมรับว่า กระแส “คนรุ่นใหม่” กำลังมาแรง

00 ดังนั้น จึงไม่แปลกที่พรรคจะส่งไม้ต่อให้กับการ “ทายาททางการเมือง” ในการนั่งเก้าอี้เป็นผู้บริหารพรรคดังรายชื่อที่ปรากฏ หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ไทยรักไทย” ยุค 2018 ก็เป็นได้

000 คงต้องจับตาการเปิดตัวคีย์แมนและยุทธศาสตร์ของพรรคในวันนี้ว่า ท้ายที่สุดแล้วพรรคจะมีการ “วางหมาก” ในการเดินทัพเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งอย่างไร ไม่แน่ว่านี่!จะเป็นการ “แตกทัพ” ของเพื่อไทย ตามยุทธศาสตร์แยกกันเดินตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ก็เป็นได้