สตม.รวบ 2 หนุ่มสัญชาติแอฟริกาใต้ ค้าโคเคน-โอเวอร์สเตย์

สตม.รวบ 2 หนุ่มสัญชาติแอฟริกาใต้ ค้าโคเคน-โอเวอร์สเตย์

สตม.รวบ 2 หนุ่มสัญชาติแอฟริกาใต้ค้าโคเคน และลักลอบอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกินกฏหมายกำหนด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สวนพลู พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.ประจำ สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ตร. ร่วมแถลงผลการจับกุมชายชาวต่างชาติที่ทำการลอบซื้อขายโคเคน จำนวน 1 ราย และจับกุมผู้ที่อยู่อาศัยเกินกำหนด(โอเวอร์สเตย์) อีก 1 ราย โดยสามารถจับกุมได้ที่ย่านบางนา กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(บก.สส.สตม.) และ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายเอ็นคอนชินาติ ปริน ดาด้า อายุ 33 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ ถูกจับกุมในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2(โคเคน,โคคาอีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ถนนบางนา-ตราด แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ พร้อมของกลางโคเคนชนิดก้อนสีขาวขุ่น พันด้วยเทปพันสายไฟสีดำห่อด้วยถุงพลาสติกใส จำนวน 5 ก้อน รวมน้ำหนักประมาณ 4.1 กรัม ซึ่งผู้ต้องหากำลังจะนำมาขายให้กับวัยรุ่นชาวไทย เมื่อทำการสอบสวนขยายผลจึงทราบว่า นายเอ็นคอนชินาติ ได้ทำการติดต่อซื้อขายโคเคนกับชายชาวผิวสีคนหนึ่ง เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อย ชายคนดังกล่าวจึงได้ให้ภรรยาชาวไทยเป็นผู้มาส่งสินค้า โดยนัดรับของในย่านสุขุมวิท

ต่อมาเมื่อทำการขยายผลได้มีการซัดทอด นายเอ็นคอนชินาติ เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหา ที่คอนโดเดอะนิช โมโนบางนา อาคาร D แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ก่อนจะพบนายโมลิน เบนจามิน อายุ 35 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารการเดินทางพบว่า หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ปี 2560 เกินกว่ากำหนด 359 วัน เมื่อสอบสวนทราบว่า นายโมลิน อ้างตัวมาสมัครเป็นนักฟุตบอลตามสโม+++สรต่างๆ ในประเทศไทย แต่ไม่มีผู้ใดรับตัว ก่อนจะถูกจับกุมในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด”

ทางด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต่อจากนี้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และจะทำการขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ห้ามเดินทางเข้าประเทศไทยอีก ก่อนจะผลักดันเนรเทศออกนอกประเทศต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นนักฟุตบอลตามสโมสรต่างๆ นั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯ ดำเนินการตรวจสอบให้รัดกุมและละเอียดมากยิ่งขึ้น