'บิ๊กโจ๊ก' แถลงจับบริษัทนอมินีต่างชาติ ได้คนทำผิด 6 ราย

'บิ๊กโจ๊ก' แถลงจับบริษัทนอมินีต่างชาติ ได้คนทำผิด 6 ราย

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงจับนักธุรกิจจีนพร้อมพวกอีก 6 ราย เปิดบริษัท “นอมินี” ระบุอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 1แสน–1ล้าน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สวนพลู พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.ประจำ สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 และ ชุด ศปอส.ตร. ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัวผู้ต้องหา ดำเนินธุรกิจเปิดบริษัท“นอมินี” ให้กับคนต่างชาติ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย นายหม่า โป สัญชาติจีน นางภารินี แซ่แต้ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และน.ส.เซียว เฉิน ทั้งหมดสัญชาติไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลต่างด้าว เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้ทำการก่อตั้งบริษัทจำกัดเป็นจำนวนมาก โดยมีการนำคนไทยเป็นเข้ามาเป็นหุ้นส่วน เพื่อให้สามารถทำการจัดตั้งบริษัทจำกัดได้ โดยไม่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับ แต่แท้จริงแล้วนั้นคนไทยที่เป็นหุ้นส่วนดังกล่าวกลับมิได้มีส่วนรู้เห็นในการร่วมลงทุน ดูแลบริหาร หรือได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทย และเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้ง เพื่อเป็นการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ชุดปฏิบัติการที่ 14 และ 19 เข้าตรวจสอบในกรณีดังกล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้เข้าทำการตรวจสอบ บริษัท รอยัล สลีพ อินเตอร์นั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 134/3 ถ.ปราชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องนอนยางพารา โดยจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ได้มีการติดต่อว่าจ้างคนไทยให้มาร่วมจดทะเบียน และถือหุ้นแทนในการจัดตั้งบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ แต่แท้จริงแล้วนั้นกรรมการบริษัทผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวของ หรือรู้เห็นในการบริหารจัดการ และไม่ได้รับผลประโยชน์หรือกำไรที่มาจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว

"จากการตรวจสอบพบว่า เงินทุนในการเปิดกิจการ ก็เป็นของกรรมการบริษัทที่เป็นคนจีนทั้งสิ้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำในลักษณะ “นอมินี” โดยถือหุ้นแทนให้กับบุคคลต่างด้าว อันเป็นความผิดตาม มาตรา 36 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังการตรวจสอบจนทราบแน่ชัด จึงได้ทำการขอหมายจับจากศาลอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จำนวน 8 ราย โดยขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 6 ราย ประกอบด้วย นายหม่า โป สัญชาติจีน นางภารินี แซ่แต้ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และน.ส.เซียว เฉิน ทั้งหมดสัญชาติไทย ส่วนอีก 2 ราย คือนายธารวิทย์ บินซาเล และนางตุ๊กตา เอี่ยมใส อยู่ระหว่างติดตามตัว

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา“เป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542” กับนายหม่า โป สัญชาติจีน ส่วนนางภารินี แซ่แต้ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และน.ส.เซียว เฉิน ทั้งหมดสัญชาติไทย แจ้งข้อหาเป็นผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542

จากการตรวจสอบพบว่า นายหม่า โป ชาวจีน เป็นเจ้าของบริษัท โดยได้ว่าจ้าง น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และ น.ส.เซียว เฉิน ให้หาบุคคลอื่นมาจดทะเบียนและถือหุ้นแทน ซึ่งได้มีการว่าจ้างพ่อค้าแม่ค้าภายตลาดย่านห้วยขวาง ได้แก่ นางภารินี แซ่แต้ นายธารวิทย์ บินซาเล และนางตุ๊กตา เอี่ยมใส ให้ค่ากรอกเอกสาร ราคา 300 บาท จากนั้นนายหม่า โป ได้เปลี่ยนผู้ถือหุ้นให้เป็นของคนรู้จักคือ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ จึงได้ทำการขอหมายจับศาลอาญาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นายหม่า โป อายุ 38 ปี เป็นชาวจีน นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ อายุ 60 ปี น.ส.ภคมน หมัดเนาะ อายุ 52 ปี น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา อายุ 40 ปี น.ส.เซียว เฉิน อายุ 38 ปี นางภารินี แซ่แต้ อายุ 50 ปี

จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จะเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 รายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด